“รังสิมันต์” จี้สภาผ่านร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งคสช. ดันปลดล็อกการเมืองไทย
“รังสิมันต์ โรม" เรียกร้องสภาและส.ส.ให้ความสำคัญร่างยกเลิกคำสั่ง คสช. ชี้หากร่างกฎหมายผ่านจะเป็นการถอดสลักโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งการเมืองไทยเพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤต คาดสัปดาห์หน้าร่างฯ ผ่านเข้าสู่การพิจารณาของสภา
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เเถลงข่าวถึงประเด็นเรียกร้องให้สภาผู้เเทนราษฎร นำร่างกฎหมายยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่เสนอโดย รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะ เร่งขึ้นมาพิจารณา พร้อมกับร่างของประชาชนในสมัยประชุมนี้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภาได้พิจารณากฎหมายที่ส่วนใหญ่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่วันนี้เป็นวันแรกที่มีกฎหมายเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบางส่วนเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยภาคประชาชน ที่เฝ้ารอว่าสภาผู้เเทนราษฎรจะมีความชัดเจนอย่างไร ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดี โดยจะมีร่างของภาคประชาชน ที่เสนอให้ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่มีกฎหมายหลายฉบับออกมา แล้วฉุดรั้งต่อการเดินหน้าของประเทศไทย รวมถึงร่างของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย ในสมัยพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยยกร่างกฎหมายเอาไว้ หากทั้งหมดเราสามารถทำตรงนี้ได้ จะเป็นการถอดโซ่ตรวน ฉุดรั้งประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน
“ผมหวังว่าสภาแห่งนี้จะพิจารณาร่างกฎหมายเรื่องนี้ โดยให้ความสำคัญเหมือนกับร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเสนอ โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีความสำคัญจริง ๆ เราพยายามสื่อสารกับสังคมและเพื่อนสมาชิกว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีความสำคัญ ซึ่งเราต้องยอมรับว่ามันมีประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) จำนวนมากที่อยุติธรรมกับประชาชนจำนวนไม่น้อย และหยุดรั้งการเดินหน้าของประเทศไทย” นายรังสิมันต์ กล่าว
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า หากเราไม่ทำอะไรกับร่างกฎหมายนี้ อย่าเรียกว่าตนเองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเราเห็นอยู่ว่ามีปัญหาอยู่ตรงหน้า ดังนั้นหน้าที่ของเราในฐานะที่เข้ามาอยู่ตรงนี้ ก็ต้องเข้าไปพยายามเเก้ปัญหาออกไป ไม่งั้นเราจะต้องอยู่กับซากเดนของ คสช. แบบนี้ออกไปเรื่อย ๆ คำถามคือประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร
“นี่คือความจำเป็นที่เหตุใดประชาชนถึงเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายนี้จำนวนมาก มันมีความจำเป็นว่าทำไมถึงเราจะต้องเดินหน้าร่วมกัน ซึ่งผมต้องการฝากไปยังเพื่อนส.ส.ฝั่งรัฐบาล ซึ่งหลายท่านได้รับผลกระทบจากประกาศคำสั่งของ คสช. ไม่น้อยกว่าผม และประชาชน ซึ่งผมขอย้อนถามกลับไปว่า พวกคุณยังจำความรู้สึกที่คุณได้รับความอยุติธรรมในวันนั้นได้หรือไม่ ถ้าคุณจำมันได้ และจงใช้ความรู้สึกในวันนั้นกับการลงมติรับร่างกฎหมายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นสัปดาห์หน้า” นายรังสิมันต์ ย้ำ
รองเลขาธิการ พรรคก้าวไกล ระบุว่าเราต้องการสื่อสารให้ทราบว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญจริง ๆ เป็นการถอดสลักและโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งประเทศไทย ว่าเหตุใด ทำไมถึงประชาชนเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายขนาดนี้ ตนเองเชื่อว่า ส.ส. รัฐบาลหลายท่านก็ได้รับผลกระทบจากประกาศคำสั่ง คสช. ไม่น้อย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันลงมติรับร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้