สุดสงสาร "ช้างน้อย" ที่ถูกบ่วงรัดขาเกือบขาด ผลเอ็กซ์เรย์ยืนยันขาอีกข้างถูกยิงจริง แต่ภาพรวมอาการปลอดภัย แม้ยังกินนมได้น้อย แต่ร่าเริงเล่นกับพี่ ๆ อาสาได้
สัตวแพทย์หญิง สุนิตา วิงวอน สัตว์แพทย์ปฏิบัติการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิดเผยกับคมชัดลึก ถึงอาการของลูกช้างป่า อายุประมาณ 2-3 เดือน ที่ติดกับดักบ่วงเชือกพรานรัดขาได้รับบาดเจ็บ อยู่ในคูกันช้าง บ้านคลองยายไท หมู่ 18 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมารักษาตัวที่หน่วยพิทักษ์อุทยานเขาหินขวาก อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
โดยระบุว่า ลูกช้างยังกินนมได้น้อย จากปกติต้องได้รับนมวันละ 10-15 % ของน้ำหนักตัว ซึ่งลูกช้างตัวนี้หนักประมาณ 80 กิโลกรัม ต้องได้รับนมไม่ต่ำกว่า 8 ลิตรต่อวัน แต่ยังกินได้ไม่ถึงเกณฑ์ เนื่องจากระบบลำไส้ยังต้องปรับตัวจากการกินนมแม่ช้างมากินนมสำหรับลูกคน ซึ่งมีน้ำตาลน้อยและคุณสมบัติใกล้เคียง จึงยังต้องให้น้ำผสมแร่ธาตุเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนระบบขับถ่ายถือว่าปกติ
สำหรับขั้นตอนการรักษาแผลที่ขาหน้าด้านขวา ซึ่งถูกบ่วงรัดจนเกือบขาดนั้น ถือว่าแผลยังสด ใช้วิธีขัดล้างแผลแล้วใช้ผ้าพันแผลไว้ เพื่อป้องกันแมลงและสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดยขาท่อนบนเหนือบาดแผลขึ้นไป ยังมีเลือดมาหล่อเลี้ยงดี กล้ามเนื้อเป็นสีชมพู ส่วนรอยรัดด้านฝ่าเท้าที่ใกล้ขาด พิจารณาแล้วจะปล่อยให้หลุดเอง เพราะจะทำให้เสียเลือดและเจ็บน้อยกว่า ยังไม่รวมความเสี่ยงของการวางยาซึม
สัตวแพทย์หญิง สุนิตา ยังกล่าวถึงแผลอีก 7 รู ที่ต้นขาด้านซ้ายของลูกช้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแผลจากสาเหตุใด ว่า จากการเอ็กเรย์พบว่ากระสุนปืนอยู่ภายในแผล แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นกระสุนชนิดใด โดยจะทำการรักษาแบบแผลเปิด ให้ยาลดปวดและยาฆ่าเซื้อ จะไม่ผ่าเอาหัวกระสุนออกเพราะกระสุนอยู่ลึก การผ่าเปิดปากแผลจะยิ่งทำให้ลูกช้างเจ็บมากขึ้น เสียเลือดมากขึ้น จึงจะปล่อยให้แผลสมานเอง เพราะกล้ามเนื้อช้างหนา หัวกระสุนอยู่ลึกเกือบถึงกระดูก แต่โชคดีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อกระดูก ลูกช้างยังลงน้ำหนักและใช้ขาซ้ายหน้าได้
โดยภาพรวมถือว่าลูกช้างตัวนี้ปลอดภัย ยังร่าเริง ไม่มีอาการซึม ยังหยอกล้อและเล่นกับต้นกล้วยที่พี่ ๆ อาสาสมัครตัดมาให้เล่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง