นักวิชาการศาสนา โพสต์ เรื่องราวของพ่อกับเพื่อนพ่อ "พระมหาไพรวัลย์" จ่อสึก
นักวิชาการด้านศาสนา โพสต์เสียใจ เรื่องราวของพ่อกับเพื่อนพ่อ ไม่สามารถยับยั้ง "พระมหาไพรวัลย์" เตรียมลาจากผ้าเหลืองได้
จากกรณีที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ หรือ "พระมหาไพรวัลย์" พระนักเทศน์ชื่อดัง ได้โพสข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ หลายข้อความแบบมีนัยยะสำคัญ อาทิ การแชร์ข้อโพสต์ ของ ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพุทธศานา พร้อมระบุข้อความว่า "ใกล้จะได้สลัดปลอกคอแล้วสินะ" โดยในเนื้อหาโพสต์ของ ศ.ดร.อุทิส ได้กล่าวถึง การยืนยันการเปลี่ยนตัว ที่ได้รับการยืนยันจากรักษาการ มส.3 รูป ชีวิตหักกลาง ตำแหน่งที่คาดหวังหลุดลอย หลุดโผ โชคร้ายนายชัง เจ้าคุณ มส.ไม่ใช่เจ้าคุณราชกิจจานุเบกษา และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน "พระมหาไพรวัลย์" ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพจเฟซบุ๊คเป็น ไพรวัลย์ วรรณบุตร ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และคาดว่า พระมหาไพรวัลย์ น่าจะมีการลาสิกขา
ล่าสุดหลังจากที่ "พระมหาไพรวัลย์" เปลี่ยนชื่อเพจได้ไม่นาน ศ.ดร.อุทิส ก็ได้โพสต์ข้อความ พร้อมรูปถ่ายคู่กับ "พระมหาไพรวัลย์" และ "พระมหาสมปอง" ระบุหัวข้อว่า บันทึกคนล้มเหลว "เรื่องราวของพ่อ กับเพื่อนพ่อ" Dad & Dad’s Old Friend
ถ้าจะมีตราบาปตลอดชีวิต สิ่งที่ผมจะละอายใจเสียใจไปจนชั่วชีวิตคือ ผมไม่สามารถระงับยับยั้งท่านมหาไพรวัลย์ มิให้เตรียมตัวเดินออกมาจากวัด หลังอยู่มา 18 ปี ไม่อยากซ้ำเติม ที่การกลับไปกลับมา จนถึงจุดต้องตัดสินใจลาจากผ้าเหลือง เพราะการตัดสินใจเลือกที่จะเชื่อ "อาเทสนาปาฏิหาริย์" ของท่าน "เจ้าคุณอุทัย" เพื่อนเก่าแก่ผมคนเดียว ผมเตือนในคืนนั้นแล้ว ให้เชื่อพระพุทธเจ้า ยามวิกฤตนี้ มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้น และตัวเราเองต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน รวมถึงรวมตัวกันแบบนก มด กบ ลิง จึงจะพอต่อกรกับพระยาช้างสาร ที่บุกเหยียบขยี้รังลูกนก เมื่อ "เจ้าคุณอุทัย" เลือกที่จะยอมจำนนฟ้า ไม่คิดขอพรฟ้า ให้พลิกผันโชคชะตาด้วยความจริง สถานการณ์เลยทรุดลง ตามข่าวลือ
นึกถึงวันเดือนปีในอดีต วันที่ 2 พส. มาเยี่ยมถึงกระท่อม นึกถึงนิราศภูเขาทอง บางตอน เสียดายตื่นจากฝัน หลวงพ่อ "ฆ่า" พระลูกให้ตายทั้งเป็น ทั้งที่ยังมีเวลาทัน ที่จะคิดการต่าง ๆ ถ้า "หลวงพ่อ" ยอมเชื่อพระลูก และเพื่อนยามยากสักครั้ง ที่นัดไว้ ไม่มาตามนัด ทุกสิ่งเลยจบลงรวดเร็วตามที่เห็น
พระเป็นลูกผู้ชาย ต้องรักษาสัจจะ "ฆ่าได้ หยามไม่ได้" ผมบอกทั้ง 2 พศ. ก่อนจากว่า แผ่นดินสยามกว้างใหญ่ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ถ้าฝืนทนอยู่ต่อไปไม่ไหว ไม่สบายใจ ก็ลาสิกขาเลย ไม่ต้องยึดติดสมมติ ส่วนถ้ายังไม่อยากลาสิกขา ผมพอฝากพระอารามหลวง ที่ผู้นำใจถึงพึ่งได้ในกรุง ยังพอมีอยู่หลายวัด ยังมีเวลาขบคิด แต่ถ้าไม่อยากฝืนทน ต้องการประกาศอิสรภาพ เสรีภาพจากวินัยพระ กฎหมายสงฆ์ ที่เข้มงวด เดินทางออกจาก comfort zone ก็จะสบายใจกว่า สึกแล้ว เป็นราษฎรสถานะเหมือนกัน มีอะไร ก็หารือกันช่วยเหลือกันได้ตลอด ดีกว่าตอนห่มเหลืองด้วยซ้ำ ลูก ๆ ที่กตัญญูกตเวที มีสัมมาคารวะ ผมและคนรอบตัว ไม่ทอดทิ้งแน่ ๆ แม้พ่อจะเลือกทางที่เห็นแก่ตัว คิดว่ามีความสุขสบาย แต่เวรกรรม เคราะห์ร้าย มาตกแก่ลูก ส่วนตัวผมว่า
เพื่อนผมถูกหลอก หลงเชื่อคนรอบตัวที่ไม่ควรเชื่อ ชีวิตเลยหักกลาง ล้มทั้งยืน ตายทั้งเป็น อับอายขายหน้าไปตลอดชีวิต เพราะไม่ต่อสู้เพื่อรักษาลูกศิษย์ลูกหา สมัยก่อนเรียก "ไม่รักตัวเอง" เลยเสียวัดที่คิดว่าจะปกครอง นิจจังเสียทั้งนั้นฯ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ศ.ดร.อุทิศ ได้โพสต์ข้อความแบบมีนัยยะสำคัญ ระบุว่า ยืนยันชัดเจนจากรักษาการ มส.ข้อมูลตรงกันถึง 3 รูป เปลี่ยนตัวจริง ไม่ใช่แค่ลือ ถ้ารายเดียว ก็ไม่น่าเชื่อถือ ชีวิตหักกลาง ตำแหน่งที่คาดหวังหลุดลอย หลุดโผ โชคร้ายนายชัง แต่เตือนกัน อย่าโทษใครเลย โทษตนเองนั่นแหละ ไม่ต่อสู้ เลือกแนวทางต่อสู้ กับคนที่ไม่ช่วยตนจริง คนที่ช่วยได้จริง ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา ขาด scenario การคาดการณ์ที่แม่นยำ
เลือกไปแก้ตัวแก้ต่างกับรายที่ทำตามนายสั่ง แต่ไม่ช่วยสักคำ ตำแหน่งเลยปลิว ที่น่าเจ็บใจคือ ไปหลงเชื่ออีกราย ถูกหลอก ที่บอกผมว่าไม่รู้เรื่อง ยืนยันไม่จริง รู้อย่างดี ว่าจะได้เป็นแทน ทาบทามเรียบร้อย ตกปากรับคำแล้ว ใครไม่อยากเป็น จล???
ปกติ ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิด ก็ต้องปักหลักต่อสู้ทุกวิถีทาง แต่เมื่อเชื่อ "หมอดู" ทำนายทายทักว่า หลัง 4 ธันวา จะโชคดี ทว่าภายใต้ดวงดาว ยศ ตำแหน่ง ลาภ ที่คาด ไม่เป็นไปตามที่หวัง ชะตาชีวิตก็ล้มครืน กลายเป็น "เรื่องเล่าคนล้มเหลว" อีกราย ไม่ต้องนัดหมาย ผม cancel จบแล้วครับ ท่านเจ้าคุณ โทษมหันต์ ประเมินค่ากัน ต่ำเกินไป
แว่วว่า 5 ธันวาคม จะมีการแต่งตั้ง และเลื่อนตำแหน่งกันเงียบ ๆ หนนี้บอกชัดเจนกว่า กรกฎาคม และสิงหาคม ก็ต้องเผื่อ 50:50 เพราะคราวเดือน 7 เดือน 8 ชั้นสามัญ ชั้นเทพ ชั้นธรรม 4ราย ที่คุ้นเคย ขนาดกรรมการ มส 3 รูปยืนยัน ระบุชื่อตำแหน่ง ตรงกัน ชัดเจน เรื่องผ่าน มส. แล้วยังรอเก้อ กลายเป็นคำล้อเล่นในวงการ "เจ้าคุณ มส." ไม่ใช่ "เจ้าคุณราชกิจจานุเบกษา"