ข่าว

สองหนุ่มลักลอบขน"ยางพารา" หนีภาษีศุลกากร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศรชล.จับ 2 หนุ่มพายเรือลักลอบขน"ยางพารา" น้ำหนักกว่า 600 กิโลกรัม หนีภาษีศุลกากร เจ้าตัวรับสารภาพ รับมาจากเมียนมา เพื่อส่งขายในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 น.อ.เพชรัตน เทียนจันทร์ ผบ.นก.สอค. ศรชล.ภาค 3 เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้ น.อ.ณัฏฐ์ จรัลกุล เสธ.นก.สอค. ศรชล.ภาค 3 จัดกำลังพลในการลาดตระเวนทางน้ำ โดยใช้เรือ ต.232 พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษของ"หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ" ออกตรวจบริเวณพื้นที่ร่องน้ำกระบุรี ถึงบ้านหัวถนน ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อป้องกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการลักลอบลำเลียงสินค้าโดยไม่ผ่านพิธี"ศุลกากร"

 

โดยระหว่างลาดตระเวนถึงบริเวณช่องสีสิน บ้านดอนกลาง หมู่ 4 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง พบเรือเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ ลักษณะต้องสงสัย จึงขอทำการตรวจค้น พบ"ยางพารา"แผ่นดิบ น้ำหนักโดยประมาณ 600 กิโลกรัม

โดยมี นายวิชัย เกตุแก้ว ให้การยอมรับว่า "ยางพารา"แผ่นดิบจำนวนดังกล่าว ตนได้รับซื้อมาจากพ่อค้าจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา เพื่อมาจำหน่ายให้กับร้านรับซื้อ"ยางพารา"ในฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการควบคุม และจัดทำบันทึกการจับกุม ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 (ฉบับที่ 5) เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักลอบหนี"ศุลกากร" หลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักร  พร้อมทั้งนำของกลางส่งด่าน"ศุลกากร" เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

ซึ่งจากการสอบถามคนในพื้นที่ทราบว่า ผู้ที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่อ้างว่ามีสวน"ยางพารา"ในประเทศเมียนมา บทลงโทษทางกฎหมายไม่รุนแรง แค่ยึดหรือเสียค่าปรับ เมื่อเสร็จแล้วก้จะกลับไปขนกันใหม่ โดยเฉพาะพวกที่รับจ้างขนเป็นอาชีพ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวก ดูแลเส้นทางสำหรับขบวนการลักลอบขน"ยางพารา" จากประเทศเพื่อบ้าน เพราะซื้อมาในราคาถูกขายในไทยได้กำไรดี แต่ก็มีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่มีสวนในประเทศเพื่อบ้านจริง ๆ แต่ก็จะไม่ขนมามากเหมือนกับพวกลักลอบทำเป็นอาชีพ

logoline