ข่าว

ป.ป.ช. นัด "ชำนาญ" เข้าให้ถ้อยคำ หลังร้องสอบอดีตปธ.ศาลฎีกา-ก.ต.ส่อทุจริต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ชำนาญ” เผย ป.ป.ช.นับเข้าให้ถ้อยคำเดือนมกราคมปีหน้า หลังร้องให้ตรวจสอบคดีอดีตประธานศาลฎีกา-ก.ต.เสียงข้างมากส่อทุจริต

นายชำนาญ  รวิวรรณพงษ์  อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นร้องเรียน อดีตประธานศาลฎีกา 2 ท่าน รวมทั้ง ก.ต. เสียงข้างมากและบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ใน 2 สำนวนคำร้อง  โดยระบุว่า ป.ป.ช.แจ้งกลับมายังตนเองว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเรื่องราวตามข้อร้องเรียน และขอเชิญไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม  ซึ่งตนเองได้แจ้งป.ป.ช. ไปว่า จะไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. ในช่วงเดือน มกราคม 2565 เนื่องจากช่วงนี้ตนเองติดภารกิจหลายอย่าง

 

นายชำนาญ กล่าวว่า ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการกระทำของนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล ประธานแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในศาลอุทธรณ์ กรณีถูกร้องเรียนว่า ใช้แอปพลิเคชันไลน์ หาเสียงเลือกตั้งก.ต.บุคคลภายนอกในกลุ่มไลน์”สภาตุลาการ”  ล่าสุดตนเองทำหนังสือถึงผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมว่า เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายอนุรักษ์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ควรต้องรีบพิจารณาโดยเร่งด่วน  เพราะเกี่ยวพันกับคุณสมบัติของ ก.ต. บุคคลภายนอก 2คน ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามาเป็น ก.ต. แล้ว และยังเกี่ยวพันกับการลงมติด้วย  เพราะหากผลออกมาว่ามีความผิด อาจจะโยงไปว่า มีความเกี่ยวข้องกับ ก.ต. บุคคลภายนอกนี้ด้วยหรือไม่  เพราะอาจถูกมองว่า รู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะมีกฎหมายอยู่ 
 

“ก็เหมือน ส.ส. นั่นแหละ ลงมติได้หรือเปล่า และที่ลงมติไปแล้วชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แล้วเบี้ยประชุมที่รับไป ต้องคืนหรือเปล่า ถ้าเกิดพบว่าการสรรหามาโดยมิชอบ เพราะฉะนั้น ทิ้งนานไปก็ไม่น่าจะดี เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ตรวจสอบให้มันถูกต้องไป ผิดไม่ผิด ก็ว่ากันไป”  นายชำนาญ กล่าว

 

ส่วนกรณีการขอให้ตรวจสอบว่า ชื่อบัญชีไลน์ที่มีการร้องเรียนว่า ใช้ล็อบบี้การหาเสียง ก.ต. บุคคลภายนอกนั้น ควรที่จะส่งเรื่องให้ตำรวจ หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบหรือไม่   นายชำนาญ ระบุว่าในการตรวจสอบเรื่องชื่อบัญชีไลน์  ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพียงแค่เรียกเจ้าตัวที่ถูกร้องเรียนมาสอบถามก็หมดเรื่องแล้ว ว่าเป็นผู้ใช้ชื่อบัญชีไลน์ดังกล่าวหรือไม่  หากใช้ชื่อไลน์นั้นจริง ส่วนอื่น ๆ ก็ว่ากันไป เรื่องอย่างนี้ หากตรวจสอบไม่ได้แล้ว จะไปพิจารณาเรื่องอื่นได้อย่างไร 
 

 

"สำหรับอำนาจการตรวจสอบเป็นอำนาจของประธานศาลฎีกา ในขณะนั้น เพราะผมร้องเรียนไปยังประธานศาลฎีกา ซึ่งก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบให้เรียบร้อย แต่รอดูครั้งที่ 2 ที่ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวโยงกันว่าจะมีการพิจารณาออกมาในรูปแบบใด หากผมเห็นว่าไม่น่าจะถูก ก็ต้องส่งกลับไปให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบใหม่ คราวนี้ก็ต้องสอบทั้งคนที่สั่งให้ยุติการสอบสวน  ซึ่งผมมองว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับการลงมติ ของ ก.ต." นายชำนาญ กล่าวย้ำ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ