จนท. มีข้อมูลกลุ่มขบวนการคนไทย นำเข้า "แรงงานผิดกฎหมาย" เร่งขยายผลแล้ว

ความคืบหน้ากรณีจับแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมากที่ชายแดนจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 ที่ผ่านมา และพบแรงงานต่างด้าว มีการสวมด้ายสีแดง ด้ายสีขาว เป็นสัญลักษณ์ พันเอกณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่บ้านห้วยน้ำนัก  ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ ทั้งหมดจำนวน 183 คน

และกรณีตรวจพบกลุ่มแรงงานต่างด้าว มีการผูกเชือกข้อมือ เป็นด้ายขาว ด้ายแดง และไม่ผูกเชือก เชื่อว่าเป็นการแบ่งกลุ่ม ของกลุ่มนายหน้า ว่าจัดหาโดยกลุ่มใด เพื่อง่ายต่อการคัดแยก เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้ มาจากหลากหลายพื้นที่จากฝั่งเมียนมา ก่อนมีการรวมกลุ่ม ลักลอบข้ามจากจังหวัดเมียวดีเข้ามาฝั่งไทย 

เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มขบวนการนายหน้านั้น มีทั้งกลุ่มขบวนการที่เป็นคนไทย ที่อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลบางส่วน อยู่ระหว่างการขยายผลดำเนินการตามกฎหมาย 

ส่วนการจัดการพื้นที่ ต้องเข้มงวดการในการสกัดกั้นในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน ของจังหวัดตาก รวมระยะทาง จำนวน 533 กิโลเมตร มีพื้นที่ทางบกตั้งแต่อำเภออุ้มผาง ถึงอำเภอพบพระ จำนวน ประมาณ 197 กิโลเมตร และแนวชายแดนทางน้ำ ตั้งแต่ลำห้วยวาเล่ย์ และแม่น้ำเมย  มีระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเป็นช่องทางข้ามแดนได้ทุกช่องทาง  

โดยเฉพาะในห้วงฤดูแล้ง ที่แม่น้ำเมยลดระดับ ทำให้สามารถเดินลุยข้ามแดนผ่านมาได้ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนพลเรือน ตำรวจ และทหาร ที่จะช่วยกันสกัดกั้นในส่วนนี้  ในห้วงที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จึงมีการผลการจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง 

เฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ล่าสุด สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้ประมาณ 833 ราย ในพื้นที่ช่องทางธรรมชาติและด่านตรวจเพื่อความมั่นคง ทั้งบ้านห้วยหินฝน บ้านห้วยยะอุและบ้านพะละ 

ทั้งนี้ ทางพลตรี ประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร  ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประชุมร่วมหารือเร่งด่วน ร่วมมือกันในรูปแบบ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ให้มีการปฏิบัติงานที่รัดกุม มีเป้าหมาย การปฏิบัติงานที่ชัดเจน

เนื่องจากคาดว่าในห้วงต่อไปนั้น จะมีกลุ่มแรงงาน ที่อาจจะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก จากสภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้ง ในช่วงฤดูแล้ง ที่ทำให้ระดับน้ำกั้นพรมแดน ลดระดับลง ทำให้ง่ายต่อการลักลอบข้ามแดนมากขึ้น โดยมาตรการจะมีความเข้มงวดและการปฏิบัติงานที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

ซึ่งการทำงานของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บัญชาการกองทัพบก ทั้งการเข้มงวดสกัดกั้นลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และป้องกันในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในการจับกุมแต่ละครั้ง มีการตรวจพบผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพบติดเชื้อโควิด-19 ต่อเนื่อง 

การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เน้นย้ำ กำลังพลใส่ชุด PPE ในการคัดกรอง คัดแยก กลุ่มผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่

ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ สุขแว่น ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตาก