"องค์การอนามัยโลก" เรียกถกด่วน จับตาไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่

ภายหลังมีสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยแพร่ข่าวค้นพบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน พบที่แอฟริกาใต้ โดยเป็นการกลายพันธุ์กว่า 30 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศยังระบุถึงการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ในย่านเอเชีย ที่ฮ่องกงแล้ว   ล่าสุด องค์การอนามัยโลก หรือ "WHO เรียกประชุมนัดพิเศษในวันนี้ (วันที่ 26 พ.ย.)  เพื่อหารือประเด็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้โดยละเอียด  

ทั้งนี้  เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า  กำลังจับตาไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 ที่พบในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นพบการกลายพันธุ์ที่โปรตีนหนาม (spike protein) มากถึง 32 ตำแหน่ง

"องค์การอนามัยโลกได้เรียกประชุมเป็นการพิเศษเพื่อหารือว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวจะมีผลอย่างไรกับการวิธีการรักษาและวัคซีนที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันในวันนี้ " 

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า  เมื่อวันที่ 25 พ.ย.  สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติแอฟริกาใต้ (NICD) เปิดเผยว่า   แอฟริกาใต้ตรวจพบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ บี.1.1.529 (B.1.1.529) หลังจากสถาบันฯ ร่วมกับห้องปฏิบัติการเอกชนดำเนินการตรวจลำดับพันธุกรรมและพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ดังกล่าว 22 ราย

เอเดรียน พิวเรน รักษาการผู้อำนวยการบริหารสถาบันฯ กล่าวว่าไม่น่าแปลกใจที่ตรวจพบเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ แม้ตอนนี้มีข้อมูลจำกัด แต่ผู้เชี่ยวชาญกำลังทำงานล่วงเวลา พร้อมตั้งระบบเฝ้าระวัง เพื่อทำความเข้าใจเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยการพัฒนากำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะคอยแจ้งข่าวสารล่าสุดอยู่ตลอด

พิวเรน กล่าวว่า มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจังหวัดเคาเต็ง นอร์ธเวสต์ และลิมโปโป

ด้านมิเชลล์ กรูม หัวหน้าแผนกเฝ้าระวังและรับมือด้านสาธารณสุขของสถาบันฯ กล่าวว่าเหล่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างตื่นตัวมาก และกำลังจัดลำดับตัวอย่างที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก โดยการตรวจพบเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ดังกล่าว หมายความว่าแต่ละบุคคลควรฉีดวัคซีน สวมหน้ากากอนามัย รักษาสุขอนามัยที่ดีของมือ รักษาระยะห่างทางสังคม และรวมตัวกันในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า   ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีกำหนดจะนำคณะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยพิเศษ ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ประเด็นหลักการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ นายอนุทินจะร่วมกับชาติสมาชิก WHO หารือเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางของการจัดทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านการเตรียมความพร้อมและการรับมือกับโรคระบาดในอนาคต แลกเปลี่ยนประสบการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตลอดจนการหารือนอกรอบกับผู้แทนองค์กรต่างๆ