
ส.ส.ก้าวไกล นำทีมธุรกิจกลางคืน ฟ้องหน่วยงานรัฐ เพิ่มชดเชยผลกระทบโควิด
ส.ส.ก้าวไกล นำทีมตัวแทนธุรกิจกลางคืน ฟ้องภาครัฐหลายหน่วยงาน พิจารณาช่วยเหลือผลกระทบจากโควิดเพิ่ม ถูกสั่งปิดผับ 2 ปี แทบไม่มีงาน
เมื่อเวลา 9.30 น.ที่ผ่าน (26 พฤศจิกายน 2564) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล , นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล พร้อมตัวแทนศิลปินเเละผู้ประกอบอาชีพกลางคืน ได้มายื่นฟ้องแบบกลุ่ม (Class Action) กับภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกค่าเสียหายและการชดเชยเยียวยากลุ่มธุรกิจนักดนตรี ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และธุรกิจกลางคืน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล
น.ส.ศิริกัญญา เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนในการฟ้องแบบหมู่ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากทางภาครัฐ จากการช่วยเหลือเยียวยาที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงเป็นที่มาว่าวันนี้ต้องพึ่งพากระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้การคำนวณค่าเสียหายจะใช้วิธีคำนวณแบบชดเชยรายได้ โดยใช้รายได้จากปี 2562 ของสมาชิกกลุ่มทั้งหมด นักดนตรีกลางคืน นักแสดง ที่โดนปิดระงับไป นักดนตรีเหล่านี้มีรายได้จากการเล่นดนตรีในงานอีเวนท์และผับบาร์ต่าง ๆ
“ไม่ว่าความเสียหายเยอะน้อยเท่าไร แต่เกิดจากอาชีพที่เขามีไม่สามารถประกอบได้เป็นเวลา 2 ปี เม็ดเงินอาจจะดูน้อย แต่ความเสียหายนั้นมีมาก” น.ส.ศิริกัญญา ระบุ
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลได้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจร้านนวด และร้านอาหาร ผับ บาร์ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า มีความน่าจะเป็นที่ศาลจะรับฟ้อง เรายังมีความหวังกับเรื่องนี้อยู่ เราคงจะหวังพึ่งอะไรกับทางรัฐบาลได้ไม่มากแล้ว จึงจะต้องใช้กระบวนการยุติธรรมแทน โดยหวังว่าศาลจะอำนวยความยุติธรรมในครั้งนี้ ในวันนี้อาจจะมีมติจากทางศบค. เพื่อกำหนดเวลาแน่ชัดว่าธุรกิจกลางคืนจะเปิด ได้เปิดเมื่อไหร่
ด้าน นายปกรณ์ โพธิ์แสงดา สมาชิกวง IHEARBAND ตัวแทนศิลปินที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ จากงานที่มีอยู่เดือนหนึ่ง 20-30 งาน แทบจะกลายเป็นศูนย์ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงช่วงเดือนตุลาคมก็ยังไม่ดีขึ้น โดยตนเองเป็นตัวแทนของกลุ่มนักดนตรีจำนวน 30 กว่าคน แต่จำนวนจริง ๆ นั้นมีมากกว่านี้
นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในกลุ่มผู้เสียหายมีความเสียหายแตกต่างกัน ศาลท่านพิจารณาบังคับคดีก็ไม่ได้คำนวณที่จำนวนเงิน จึงไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ ศาลก็จะพิจารณาพยานหลักฐานรายได้ที่ยื่นมา