
คกก.โรคติดต่อเตรียมยกเลิก "ค่าธรรมเนียม e-Vaccine Passport"
คกก.โรคติดต่อเตรียมยกเลิก "ค่าธรรมเนียม e-Vaccine Passport" และเห็นชอบแผนจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิดและโมลนูพิราเวียร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศไทยขณะนี้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตลดลง วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,335 ราย สะสม 2,081,572 ราย หายป่วยกลับบ้านได้ 7,218 ราย หายป่วยสะสม 1,987,089 ราย ขณะที่ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด 19 ขณะนี้ฉีดไปแล้ว 90,468,955 โดส ครอบคลุมประชากร 47 ล้านคน จากกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน ซึ่งยังมีผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอีก 3 ล้านคน จึงกำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงขยายการฉีดในกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยตั้งเป้าหมายครบ 100 ล้านโดส ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากผลสัมฤทธิ์ของการฉีดวัคซีน ทำให้ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มลดลงชัดเจน แต่ยังพบคลัสเตอร์บ้างประปราย ได้ให้ทุกจังหวัดเตรียมแผน ระบบการรักษา จัดหายา และเวชภัณฑ์ให้มีความพร้อมเสมอ ในส่วนการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1-23 พฤศจิกายน 2564 มีผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยาน
ทั่วประเทศ ทั้งรูปแบบ Test & go Sandbox และ Quarantine สะสม 94,756 ราย พบผู้ติดเชื้อประมาณ 0.1% อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมโรคได้ ซึ่งจะสามารถดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้ง UP / Covid Free Setting เพื่อให้สามารถเปิดกิจการ กิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ประชาชนใช้ชีวิตได้เป็นปกติที่สุด
นายอนุทินกล่าวต่อว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้หารือใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ
1.การปรับแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางในการเข้าราชอาณาจักร ตามแผนการเปิดประเทศ ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2564 โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ได้แก่ การปรับวันกักตัว ปรับวิธีการตรวจในทุกรูปแบบที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะเสนอ ศบค. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
2.การยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรณีโรคโควิด 19 แบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้บริการผ่านช่องทางe-Vaccine Passport สำหรับผู้เดินทางระหว่างประเทศ (1 – 31 ธันวาคม 2564)
3.เห็นชอบให้กรมการแพทย์จัดทำแผนปฏิบัติการจัดหายาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) รวมทั้งความก้าวหน้าการจัดหายารักษาโรคโควิด 19 โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ซึ่งยาทั้งสองตัวเป็นยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีโรคประจำตัวร่วม เช่น ภาวะอ้วน อายุมากกว่า 60 ปี โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง โดยผลการวิเคราะห์เบื้องต้น พบว่ายาทั้งสองชนิดนี้ ช่วยลดการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้มากกว่า 50% และไม่มีผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้รับยาทั้งสองชนิด