
" พราม แบงค็อก" รับเป็นรองดวล ปราสาทสายฟ้า เอฟเอคัพ รอบ 3
"โค้ชจุ่น"จตุพร ประมลบาล ประธานสโมสรฟุตบอล " พราม แบงค็อก" ทีมในไทยลีก 3 โซน กรุงเทพฯปริมณฑล ยอมรับเกมดวลกับ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ในฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 3 ชื่อชั้นเป็นรองเจ้าบ้าน แต่ก็ขอสู้จนนาทีสุดท้าย ย้ำเป้าหมายหวังทำผลงานชนะกลับออกมา
จตุพร ประมลบาล ( โค้ชจุ่น ) ประธานสโมสรฟุตบอลพราม แบงค็อก สโมสรฟุตบอลอาชีพ ในไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ให้สัมภาษณ์กับ " คมชัดลึก" ว่า ในการลงแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ รอบ 3 โดยทีมจากลีกสูงสุดไทยลีก 1 หรือ รีโว่ ไทยลีก จะลงแข่งขันในรอบนี้ ทั้งนี้ "พราม แบงค็อก" ซึ่งผ่านการแข่งขันในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 จะพบกับ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" หรือ " ปราสาทสายฟ้า" ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลชั้นนำของระบบการแข่งขัน ของฟุตบอลอีกอาชีพ แข่งกันในเวลา 18.00 น. วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน
แน่นอนว่า หากเทียบมาตรฐานของทั้ง 2 ทีม "พราม แบงค็อก" อยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง อย่างไรก็ตามเป้าหมายของทีมในการลงแข่งขันก็คือ การทำผลงานเอาชนะ เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่สู้ไม่ได้ แต่จุดยืนของ พราม แบงค็อก คือ การสู้ตลอด 90 นาที โดยคาดหวังไปถึงการชนะ แม้ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ก็ตาม
ทั้งนี้สำหรับฟุตบอลเอฟเอคัพ การประกบคู่จนมาพบกับ " บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ในแง่ของเส้นทางฟุตบอลแล้วคือ ความภาคภูมิใจ ที่ทีมฟุตบอลขนาดเล็ก สามารถทำผลงานจนเข้ามาถึงรอบที่ 3 และการที่ต้องมาพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่คือโอกาสที่ท้าทาย เพราะพราม แบงค็อก ได้พบกับทีมระดับประเทศ และเป็นการแข่งขันที่หวังผลแพ้ชนะของทั้ง 2 ทีม ไม่ใช่การแข่งขันในแบบกระชับมิตร จึงเป็นความภูมิใจ ที่พราม แบงค็อก ทำผลงานมาจนถึงรอบนี้
ขณะเดียวกัน การได้พบกับทีมชั้นนำระดับประเทศ การเล่นเป็นเกมเยือน ด้วยการมาเยือนที่"สนามช้างอารีน่า" รังเหย้าของ "ปราสาทสายฟ้า" ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า สำหรับคำตอบเดียวของ พราม แบงค็อก ต่อเกมนี้ คือการทำผลงานเพื่อชนะเท่านั้น จริงอยู่ว่าด้วยชื่อชั้นแล้ว พราม แบงค็อก อยู่ในสภาพที่เป็นรอง แต่การมาถึงรอบนี้แล้ว ก็คือการทุ่มเททุกอย่าง เพื่อที่จะทำผลงานให้ดีที่สุด และพิสูจน์ให้เห็นว่า พร้อมที่จะสู้
ภาพ คมชัดลึกออนไลน์ : โสภณ เพชรแท้