ข่าว

"ภูมิแพ้" โพรงจมูกอักเสบ โรคที่พบบ่อยช่วงหน้าหนาว แนะวิธีรักษาให้หายขาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ภูมิแพ้" โพรงจมูกอักเสบ พบได้บ่อยในหน้าหนาวและช่วงอากาศมีมลพิษสูง เสี่ยงทั้งเด็ก-วัยรุ่น-วัยทำงาน แนะ 2 วิธีรักษาให้หายขาด

นพ.จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี อาจารย์แพทย์อนุสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก  สาขาอายุรกรรม ศูนย์การแพทย์ปัญญานนทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  กล่าวว่า ปัจจุบันโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ (Allergic rhinitis) และโรคหืด (Asthma) เป็นปัญหาที่พบบ่อยทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน พบบ่อยครั้งในฤดูฝน ฤดูหนาว ตลอดจนช่วงมลพิษในอากาศสูง อาการที่พบบ่อยได้แก่ จาม น้ำมูก คัดจมูก คันตา และในรายที่มีโรคหืดเป็นโรคประจำตัว มีอาการหายใจมีเสียงหวีด หอบหืด กำเริบ โดยจะมีอาการมากในช่วงอากาศเย็น อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ หรือเวลาผู้ป่วยสูดดมสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น รังแคแมว แมลงสาบ ทั้งนี้ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจว่าตนเองแพ้ละอองอากาศอะไร เพื่อหลีกเสี่ยงสารแพ้ดังกล่าว 

นพ.จิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากการหลีกเลี่ยงสารแพ้ดังกล่าวรวมกับการใช้ยาพ่นจมูกชนิด เสตียรอยด์แล้ว ปัจจุบันมีการรักษาที่ต้นเหตุเพื่อทำให้ผู้ป่วยไม่เกิดไม่เกิดอาการแพ้เมื่อสูดดมสารแพ้ดังกล่าว โดยการปรับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย หรือที่เรียกว่า อิมมูโนเทอราพี(Immunotherapy) ต่อสาร แพ้ดังกล่าว ในปัจจุบันมี 2 วิธี คือ แบบฉีดสารสกัดที่ผู้ป่วยแพ้ เช่น ไร่ฝุ่น ผสมน้ำยาปลอดเชื้อ เข้าไปที่ชั้นผิวหนังทีละน้อย และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณทุกสัปดาห์ และเมื่อถึงปริมาณทุกสัปดาห์ และเมื่อถึงปริมาณการรักษาสามารถฉีดห่างขึ้นถึงทุกเดือนได้ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี  และอีกหนึ่งวิธีคือแบบอมใต้ลิ้น ปัจจุบันในประเทศไทยนำเข้าเฉพาะชนิดไรฝุ่นสกัด โดยอมใต้ลิ้นทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี ทำร่วมกับการรักษาปกติผู้ป่วยจะอากาศค่อย ๆ ดีขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิต และลดยาประจำอื่น ๆ ลงได้ในบางราบอาจหายได้ 

ทั้งนี้การทำการรักษาด้วยวิธีอิมมูโนเทอราพี (Immunotherapy) ดังกล่าวจำเป็นต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกันทางคลินิกเท่านั้น เพราะอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ ซึ่งอากาแพ้และปริมาณในแต่ละครั้งของการรักษาไม่เท่ากัน ดังนั้นผู้ป่วยจะต้องรับการรักษาจากแพทย์เฉพสทางเท่านั้น 

logoline