"ทรู-ดีแทค" ระดมทุนกว่า 6.5 พัน ลบ. ลุยเป็นTech Statup ยืนยันให้บริการตามเดิม

หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์ (เครือซีพี) และกลุ่มเทเลนอร์ ได้พิจารณาสร้างความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน หรือการสร้าง "Equal Partnership" เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร (Transformation) สู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี หรือ Tech Company ภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีฮับ หรือ การประกาศควบรวมกิจการ ตามที่สื่อได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ในช่วงบ่ายวันนี้ ได้มีการแถลงความชัดเจนในการร่วมมือกันครั้งนี้เพิ่มเติมผ่านระบบ Zoom โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และ นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทเลนอร์ 

ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองบริษัท ทรู และ ดีแทค ยืนยันแล้วว่า จะร่วมมือกันในรูปแบบ Equal Partnership หรือพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม ซึ่งจะส่งผลให้ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ C.P. Group และ Telenor ถือหุ้นเท่า ๆ กันในบริษัทใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้น 

โดยเป้าหมายสำคัญ ในการร่วมมือครั้งนี้ คือ การก้าวเป็น "ฮับของเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค" ซึ่งจะมีการขยับขยายธุรกิจไปโฟกัสที่ด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ ระบบคลาวด์ อุปกรณ์ไอโอที และโซลูชันดิจิทัลมีเดีย พร้อมทั้งเตรียมศึกษาด้านเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจต่อไปด้วย

นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทเลนอร์ กล่าวว่า “เรามีประสบการณ์ในการขับเคลื่อนโลกดิจิทัลในประเทศต่างๆ ในเอเชียมาแล้ว ดังนั้น ขณะที่เรายังพัฒนาต่อไป  ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจต่างคาดหวังบริการที่ล้ำสมัยและการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่า บริษัทใหม่นี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอด ยกระดับประเทศไทย ไปสู่การเป็นผู้นําในโลกดิจิทัลได้ ด้วยการผนวกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ากับการบริการที่ดึงดูดลูกค้า พร้อมนําเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม” 

โดยบริษัทใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น จะตั้งกองทุนมูลค่าประมาณ 200 ล้านเหรียญ หรือ คิดเป็นเงินไทยกว่า 6,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุน Tech Statup บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในไทย สำหรับการขออนุมัติและการดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565

นายศุภชัย เจียรวนนท์ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom Landscape) 
ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเทคโนโลยีใหม่ และตลาดที่เปิดกว้างต่อการแข่งขัน โดย ผู้ประกอบการจากอุตสาหกรรมดิจิทัลขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคเข้ามาเสนอรูปแบบบริการดิจิทัลมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ทําให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคม ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจาก
การพัฒนาการให้บริการเครือข่าย (Connectivity) ให้เป็นอัจฉริยะแล้ว ยังต้องเสริมศักยภาพและความรวดเร็ว ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) จากโครงข่ายการสื่อสารและส่งมอบเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทําให้การปรับโครงสร้าง (Transformation) ของบริษัทไทยสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี ให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นชั้นนําระดับโลกได้นั้น ถือว่ามีความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง”

ส่วนประเด็นเรื่องธุรกิจของ "ทรู" และ "ดีแทค" ในด้านเครือข่ายมือถือ ที่ประชาชนให้ความสนใจนั้น ขณะนี้ทั้งสองบริษัทจะยังดำเนินการ ให้บริการเครือข่ายมือถือ ต่อไปตามปกติ ควบคู่ไปกับการพิจารณาปรับโครงสร้างบริษัท จนกว่าจะมีความชัดเจนต่อไป ซึ่งผู้สื่อข่าวจะนำเสนอข่าวให้ทราบกันต่อไป