ข่าว

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" วันนี้โอนเงิน 1,000 บาท กดเงินสดได้รอบสุดท้ายของปี

22 ธ.ค. 2564

เช็คเลย "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ไทม์ไลน์โอนเงินประจำเดือนธันวาคม ละเอียดได้ที่นี่วันนี้โอนเงินเบี้ยคนคนพิการ 1,000 บาท เงินสดที่ตู้ATMได้รอบสุดท้ายของปี 64

อัปเดตการโอนเงินเยียวยา "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" บัตรคนจน ประจำเดือนธันวาคม 2564  โดยกรมบัญชีกลาง โอนเงินตามไทม์ไลน์ที่กำหนดเอาไว้ ให้กับผู้ถือบัตรจำนวน 13.5 ล้านคน ต่อเนื่องในทุก ๆ เดือน

สำหรับในเดือนธันวาคมนี้ กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินตามเงื่อนไขต่าง ๆ ทีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชน ดังนี้

 

วันที่ 1 ธันวาคม 2564  

  • วงเงินซื้อสินค้า 700 และ 800 บาทต่อเดือน โดยเป็นวงเงินเดิม 200 และ 300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท 
  • ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

(ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไป)

วันที่ 18 ธันวาคม 2564 

  • เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน
  • เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้ชำระเอง 

ส่วนเกินที่ประชาชนจ่ายมาจะได้รับเงินคืนทุกวันที่ 10 ของเดือนเท่านั้น สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)


 

วันที่ 22 ธันวาคม 2564 

  • โอนเงินเบี้ยความพิการรับเงิน 1,000 บาท

เพิ่มเงินเบี้ยความพิการ จำนวน 200 บาท ถึงเดือน กันยายน 2565 จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน  นอกจากนี้ยังมีเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวน 300 บาท/คน/เดือน ระยะเวลา 2 เดือน (เดือนพ.ย.- ธ.ค. 64) รวมเป็น 500 บาทต่อคน ในเดือนพ.ย.และธ.ค. และรวมเป็น 1,800 บาท   
สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย และสะสมในเดือนถัดไปได้

อย่างไรก็ตาม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดมากที่สุด  โดยเบื้องต้นได้กำหนดเกณฑ์โดยนำรายได้ของครอบครัวมาคำนวณสิทธิด้วย คือ ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี จากเดิมที่พิจารณาเพียงรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี 

ทั้งนี้การเปิดลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"  บัตรคนจน รอบใหม่ จะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2565 คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งเป็นเปิดการลงทะเบียนรับทั้งคนใหม่ และให้คนเก่าลงลงทะเบียนด้วยเพื่อทบทวนสิทธิ และถ้ามีผู้ได้รับสิทธิมากกว่าที่คาดไว้ ก็ไม่มีปัญหาเพราะไม่ได้เอาจำนวนเงินเป็นตัวตั้ง แต่ใช้หลักเกณฑ์ใครที่อยู่ในเกณฑ์ ก็จะได้รับสิทธิ