
กัลฟ์ ฟ้อง "หมอวรงค์" เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ปมดาวเทียมไทยคม
หัวหน้าพรรคไทยภักดี "นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม" เผย ถูก บ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ปมดาวเทียมไทยคม
"นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ฟ้องผมร้อยล้าน
ก่อนหน้านี้การต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบัน ผมถูกนายธนาธร และพรรคก้าวไกลฟ้องคดีละ 24,062,475 บาท สองคดีก็เกือบ 50 ล้านบาท
ล่าสุดต่อสู้เรื่องทวงคืนดาวเทียมไทยคมเพิ่งได้รับหมายศาลจากบริษัทกัลฟ์ ฟ้องผม 100 ล้านบาท
ต้องขอบคุณโจทก์ทุกท่านที่ช่วยเติมพลังให้ผมในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
ผมยังมีพลังที่จะไปปรับรื้อหลายอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศครับ
"#หมอวรงค์" #พรรคไทยภักดี
สำหรับคดีนี้ "นพ.วรงค์" ถูกยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้และศาลได้ออกหมายกำหนดให้ "นพ.วรงค์" ยื่นคำให้การแก้คดียื่นต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่รับหมายนัด และกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์วันที่ 27 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณี "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่า คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้ถูกร้องที่ 2 กสทช. ผู้ถูกร้องที่ 3 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ผู้ถูกร้องที่ 4 และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกร้องที่ 5 กระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 190 และมาตรา 305(1) และรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 60 มาตรา 274 หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า กรณีผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 1 มีมติมอบให้ผู้ถูกร้องที่ 5 นำเอกสารข่ายงานดาวเทียม (filing) ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออกไปทำสัญญาร่วมกับ บริษัท Asia Satellite Telecommunications Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 190 หรือไม่ เห็นว่าการยื่นคำร้องในปัญหาการทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ไม่ได้บัญญัติให้สิทธิแก่ประชาชนทั่วไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
ส่วนกรณีผู้ถูกร้องที่3 และผู้ถูกร้องที่ 4 ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เลขที่ 3ก/55/002 ลงวันที่ 26 มิ.ย. 55 เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 305(1) และบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เห็นว่ารัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 305(1) เป็นบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 4 และกรณี พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 60 มาตรา 274 หรือไม่
เห็นว่า การยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้เป็นการเฉพาะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 และมาตรา 231(1) ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ได้
สำหรับกรณีประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2562 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 60 หรือไม่
เห็นว่าประกาศดังกล่าวมิได้มีสถานะเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติที่จะอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย