ข่าว

กัลฟ์ ฟ้อง "หมอวรงค์" เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ปมดาวเทียมไทยคม

กัลฟ์ ฟ้อง "หมอวรงค์" เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ปมดาวเทียมไทยคม

20 พ.ย. 2564

หัวหน้าพรรคไทยภักดี "นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม" เผย ถูก บ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ปมดาวเทียมไทยคม

"นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม"  หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ฟ้องผมร้อยล้าน 

 

ก่อนหน้านี้การต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบัน ผมถูกนายธนาธร และพรรคก้าวไกลฟ้องคดีละ 24,062,475 บาท สองคดีก็เกือบ 50 ล้านบาท 

 

ล่าสุดต่อสู้เรื่องทวงคืนดาวเทียมไทยคมเพิ่งได้รับหมายศาลจากบริษัทกัลฟ์ ฟ้องผม 100 ล้านบาท 

 

ต้องขอบคุณโจทก์ทุกท่านที่ช่วยเติมพลังให้ผมในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ 

 

ผมยังมีพลังที่จะไปปรับรื้อหลายอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศครับ

 

"#หมอวรงค์"  #พรรคไทยภักดี

 

สำหรับคดีนี้ "นพ.วรงค์" ถูกยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้และศาลได้ออกหมายกำหนดให้ "นพ.วรงค์" ยื่นคำให้การแก้คดียื่นต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่รับหมายนัด และกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์วันที่ 27 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น.

 

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณี "นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม" ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่า คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้ถูกร้องที่ 2  กสทช. ผู้ถูกร้องที่ 3 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ผู้ถูกร้องที่ 4 และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกร้องที่ 5 กระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 190 และมาตรา 305(1) และรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 60 มาตรา 274 หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า กรณีผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 1 มีมติมอบให้ผู้ถูกร้องที่ 5 นำเอกสารข่ายงานดาวเทียม (filing) ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออกไปทำสัญญาร่วมกับ บริษัท Asia Satellite Telecommunications Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 190 หรือไม่ เห็นว่าการยื่นคำร้องในปัญหาการทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ไม่ได้บัญญัติให้สิทธิแก่ประชาชนทั่วไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

 

ส่วนกรณีผู้ถูกร้องที่3 และผู้ถูกร้องที่ 4 ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เลขที่ 3ก/55/002 ลงวันที่ 26 มิ.ย. 55 เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 305(1) และบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เห็นว่ารัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 305(1) เป็นบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 3 และผู้ถูกร้องที่ 4 และกรณี พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 60 มาตรา 274 หรือไม่

เห็นว่า การยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้เป็นการเฉพาะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 และมาตรา 231(1) ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ได้


สำหรับกรณีประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2562 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 60 หรือไม่

 

เห็นว่าประกาศดังกล่าวมิได้มีสถานะเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติที่จะอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย