"สาวแบงก์" โพสต์ล่าสุด อย่าปล่อยผ่าน กดดันยอด - บีบพนักงาน

จากกรณี ผู้ใช้ Facebook ชื่อ Pan Chalalai พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดีย โดยมีข้อความเกี่ยวกับการ "ลาออก" เนื่องจากการถูกกดดันในระบบการทำงาน จากการรับเป้า "ขายประกัน" ที่มียอดสูงสวนกระแสเศรษฐกิจ จนทำให้พนักงานต้องควักกระเป๋าซื้อประกันกันเอง เพื่อให้ได้ยอดตามเป้าที่ตั้งไว้ ตามที่สื่อเคยนำเสนอไปนั้น
 

หลังจากที่ทางด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ตัวยอดขาย หรือ เป้าขายประกัน ไม่ใช่ตัวกำหนดชี้วัดผลงาน(KPI) ที่จะทำให้เกิดความกดดันพนักงาน จนนำไปสู่การเสนอขายที่ขาดคุณภาพและขาดความรับผิดชอบต่อลูกค้า และแจ้งว่าจะดำเนินการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ ที่มีการขายประกันภัยไม่ถูกต้อง

และทาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ออกหนังสือชี้แจง ในกรณีที่เกิดขึ้น ว่าได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และในเบื้องต้นธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และธนาคารตระหนักดีว่าพนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าอย่างยิ่งและเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่สำคัญขององค์กร โดยธนาคารมีนโยบายในการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเหมาะสม รวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานมาโดยตลอด

ล่าสุด วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 คุณปอ ผู้ใช้ Facebook ชื่อ Pan Chalalai อดีต "สาวแบงก์" ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดียอีกครั้ง โดยมีใจความสำคัญว่า วอนทุกภาคส่วนอย่าปล่อยผ่าน ต้องช่วยกันหารือ ร่วมกันแก้ไข ติดตามและรายงานความคืบหน้าผ่านสื่อและช่องทางสาธารณะต่างๆ ให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ พร้อมทั้งย้ำว่า การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นตอและต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุแล้วฝังกลบไว้ มิเช่นนั้น ปัญหาต่างๆอาจจะผุดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ และลุกลามเป็นปัญหาที่ใหญ่จนไม่สามารถแก้ไขได้ ขุดมันขึ้นมาแก้ไขจริงๆจังๆ เศรษฐกิจประเทศจะได้ขับเคลื่อนและพัฒนาต่อไปได้

"หลายๆคนเป็นห่วง เรื่องที่ปอโพสหลังจากลาออกมีผลเรียบร้อยแล้ว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมแวดวงคนที่ทำงานและเคยทำงานในสถาบันการเงินต่างๆ รวมไปถึงคนทั่วไปที่ให้ความสนใจ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจากใจจริงๆ

หลายๆคนอาจจะบอกว่า ปอคือตัวแทนหมู่บ้าน ปอคือหน่วยกล้าตาย ปอจะบอกว่า…เปล่าเลยค่ะ !!!! ปอ คือ คนที่รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมในเรื่องของวิธีการบริหารการทำงาน เลยโพสในมุมของตัวปอเอง

จริงๆสิ่งที่ปอตั้งใจ คือ การทวงคืนความเป็นธรรมในเหตุการณ์ที่ทำให้ปอต้องตัดสินใจลาออก เลือกที่จะตัดอนาคตตัวเองในการทำงานต่อไป แม้ว่าจะอดทนทำงานภายใต้แรงกดดันมายาวนานแค่ไหน ปอก็รักในหน้าที่ที่ทำ ปอสนุกและเต็มที่กับการทำงานมาตลอด แม้ว่าระหว่างทางที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคมากน้อยแค่ไหน ก็ผ่านมันมาได้เสมอ จนมาถึงเหตุการณ์นี้ ปอรับไม่ได้ จนทำให้ต้องหยุดและเดินออกมาด้วยความรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับตัวเอง
แต่…ทั้งนี้ทั้งนั้น ปอไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ชื่อเสียงขององค์กรหรือบุคคลใดเสียหาย ตามที่ปอแจ้งไปตั้งแต่โพสแรก ปอยืนยันและพูดทุกครั้งที่มีโอกาสได้พูดว่า ปอรักองค์กร ปอก็ได้อะไรหลายๆอย่างจากการทำงานไม่ต่างกับใครหลายๆคน แต่ปอก็เสียทรัพย์จากการทำงานภายใต้การบริหารที่กดดันและบีบบังคับเช่นกัน ปอเลยต้องออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเอง

หลาย ๆ คนเป็นห่วงเรื่อง สิทธิที่ปอจะได้รับจากการลาออก เช่น ค่าจ้างที่จะต้องได้รับ เงินที่เหลือจากการใช้สิทธิลาพักร้อน เงินกองทุนฯ เงินสมทบฯ เรื่องนี้ปอได้คิดและทบทวนก่อนยื่นใบลาออกแล้วว่า…เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย ยังไงปอก็มั่นใจ 100% ว่าปอต้องได้รับเต็มจำนวนตามสิทธิที่ปอได้รับและตามระยะเวลาแน่นอน เพราะปอค่อนข้างมั่นใจในองค์กรมากๆ สถาบันการเงินย่อมมีทีมกฎหมายที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้วเรื่องนี้…สบายใจหายห่วง

ส่วนในเรื่องความเป็นธรรม เป็นหน้าที่ขององค์กรที่ต้องตรวจสอบความข้อเท็จจริง ภายใต้การกำกับและดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะ…ปออยากให้โอกาสอีกฝ่ายได้มีการอธิบายเหตุการณ์ในครั้งนี้ และปอก็ยังรอที่จะอธิบายเช่นกันค่ะ

เรื่องของปอที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะไปจี้จุดใครหลายๆคน เพราะหลายๆคนอาจจะเคยเผชิญเหตุการณ์คล้ายๆกัน หรืออาจจะรุนแรงและโหดร้ายมากกว่าปอด้วยซ้ำ ปอไม่ได้มีเจตนาจะปลุกระดมหรือปั่นกระแสใดๆให้ใครลุกมาทำอะไรตามอำเภอใจ แต่…ทุกคนมีสิทธิจะพูด มีสิทธิจะทวงความยุติธรรมเช่นเดียวกับปอ บ้านเมืองมีขื่อมีแป ปอเชื่อว่านายจ้างและกฎหมายยังมีความยุติธรรมเสมอ เพียงแต่นายจ้างอาจจะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเท่านั้น
การที่ทุกคนออกมาพูด มาเล่าให้ปอฟัง เพื่อให้ปอเป็นกระบอกเสียงให้ ปอขอบคุณมากๆค่ะ ที่เชื่อใจปอ ปอยินดีรับฟังและยินดีจะสื่อสารให้ หากมีโอกาส ทั้งนี้ทั้งนั้น…ก็ต้องอยู่ภายใต้พยานและหลักฐานที่ชัดเจนด้วยเช่นกัน เราจะไม่กล่าวโทษใครโดยที่ไม่มีโอกาสให้อีกฝ่ายได้อธิบายค่ะ

ปอกราบขอบคุณสื่อต่างๆที่ให้ความสนใจและเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้นะคะ รวมไปถึงทุกๆคน ซึ้งใจจริงๆค่ะ อย่างน้อยปอก็รู้แล้วว่าปอไม่ได้สู้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง การที่ปอออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ปออยากให้เคสปอเป็นเคสตัวอย่าง ทุกอย่างมันมีทางออกและทางแก้ไขเสมอ หากเราเรียกร้องด้วยความถูกต้องและโปร่งใส

การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นตอและต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุแล้วฝังกลบไว้ มิเช่นนั้น ปัญหาต่างๆอาจจะผุดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้และลุกลามเป็นปัญหาที่ใหญ่จนไม่สามารถแก้ไขได้ ขุดมันขึ้นมาแก้ไขจริงๆจังๆค่ะ เศรษฐกิจประเทศจะได้ขับเคลื่อนและพัฒนาต่อไปได้

เป็นโอกาสที่ดีนะคะ…ที่จะได้แก้ปัญหาจริงๆจังๆสักที ขอวอนว่า…อย่าปล่อยผ่านค่ะ
ทุกภาคส่วนต้อง…หารือร่วมกัน แก้ไข ติดตาม และรายงานความคืบหน้าผ่านสื่อและช่องทางสาธารณะต่างๆ ให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆด้วยค่ะ"

ซึ่งหลังจากที่อดีตสาวแบงก์ มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และ ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

โดยเรื่องนี้ กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งทางด้านพนักงานธนาคารเอง รวมไปถึงลูกค้าผู้มาใช้บริการธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้เช่นกัน ซึ่งทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์ก็จะยังคงติดตามความคืบหน้ากันต่อไป