กองทัพบก โต้ฝ่ายค้านยัน"รถทหาร" 3,700 คัน แค่เตรียมพร้อม

จากกรณีฝ่ายค้านมองว่า การจัดรถบรรทุกของกองทัพบก ("รถทหาร")กว่า 3,700 คัน เพื่อทดแทนกรณีกลุ่มรถบรรทุกนัดหยุดวิ่งประท้วง ไม่ตรงกับภารกิจ และหากนำมาจอด 3,700 คัน แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ประโยชน์นั้น

ล่าสุด พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกแค่นำรถเหล่านี้ มาเช็คสภาพตรวจความพร้อม เพราะรัฐบาลไม่ได้ใช้ทหารเพียงหน่วยเดียว ยังมีกระทรวงอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับแผนงานของรัฐบาล หากได้รับมอบภารกิจ พร้อมยืนยันว่าปัจจุบัน "รถบรรทุกกองทัพบก" ยังคงใช้งานในหลายภารกิจ เช่น ขนส่งคนไปฉีดวัคซีน งานจิตอาสาที่ขนของไปช่วยน้ำท่วม ช่วยภัยหนาว ทั้งนี้มองว่า เมื่อประชาชนเดือดร้อนรัฐบาลจึงต้องเตรียมการทุกภาคส่วน เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้เมื่อวานนี้(18 พ.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกบางส่วนเรียกร้องรัฐบาลเรื่องราคาน้ำมันและระบุว่าจะหยุดการเดินรถขนส่งสินค้าในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว โดยนายกฯได้มีบัญชาให้เตรียมระบบขนส่งรองรับการหยุดเดินรถและให้เหล่าทัพเตรียมการสนับสนุน "รถยนต์ทหาร"เข้าช่วยในการขนส่งอีกทางหนึ่งนั้น

ในส่วนของกองทัพบก พล.อ.  ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก กรมการขนส่งทหารบก กองทัพภาค และหน่วยที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมศักยภาพด้านการขนส่งและเตรียมข้อมูล "ยานยนต์ทางทหาร" ที่สามารถนำมาใช้ในการขนส่งสินค้ารองรับตามนโยบายของรัฐบาล

รวมทั้งได้หารือถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและแนวทางปฎิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่าง ๆ พร้อมกำลังพลเข้ารับภารกิจ โดยในขั้นต้นกองทัพบกมี"รถยนต์ทหาร" ที่เหมาะสมกับภารกิจด้านการขนส่งทางถนนประมาณ  3,700 คัน แยกเป็น  3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก, ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ มีน้ำหนักบรรทุก 1, 4 และ 8 ตันตามลำดับ 

โดยขณะนี้ได้แจ้งให้หน่วยทหารได้ดำเนินการตรวจสภาพยานยนต์และพลขับรวมทั้งส่วนสนับสนุนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความพร้อม ส่วนการปฎิบัติงานจริงคงต้องรอสั่งการจากทางรัฐบาลในลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตามกองทัพบกยินดีให้การสนับสนุนเมื่อรัฐบาลมอบหมาย ทั้งนี้เพื่อให้การบริการด้านการขนส่งสินค้าในภาพรวมของประเทศเป็นไปตามระบบ ประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบ  อีกทั้งเป็นการนำเอาศักยภาพ และยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก มาใช้ประโยชน์ในการสนับสนุน และช่วยแก้ไขปัญหาของส่วนรวมด้วย