สธ.เร่งตามหา 11 ล้านคน "ฉีดวัคซีน" ครบ 100% จบ 15 ธ.ค. ยิ่งกว่าภูมิคุ้มกันหมู่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประเทศไทย "ฉีดวัคซีน" แล้วกว่า 86 ล้านโดส โดยผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 มีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วง ได้ไลน์มากำชับด้วยตัวเอง ตนจึงมอบหมายให้กรมควบคุมโรค เร่งฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จในวันที่ 15 ธ.ค.2564 ซึ่งการกำหนดเช่นนี้ ไม่ได้กดดันคนทำงาน เพราะที่ผ่านมา อัตราการฉีดวัคซีนของไทยเฉลี่ยวันละ 7-8 แสนโดส และวัคซีนก็มีเพียงพอต่อการฉีด ดังนั้น การฉีด 11 ล้านคน ใน 30 วัน ก็จะเฉลี่ยวันละ 3 แสนคน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้ศักยภาพในการฉีดวัคซีนของสถานพยาบาล ไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาคือ การค้นหาคนที่ยังไม่ได้ฉีด ให้มาฉีด ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ขอให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พาไปฉีด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่อยากฉีด เพราะคิดว่าไม่ได้ออกไปเจอใคร แต่ก็จะยกตัวอย่างให้เห็น เช่น เชียงใหม่ ที่ผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็รับเชื้อมาจากผู้ดูแลได้ เมื่อได้รับวัคซีน อาการก็ไม่รุนแรง ลดการเสียชีวิต จึงอยากให้คนที่มีข้อจำกัดในการรับวัคซีน ซึ่งอยู่ใน 11 ล้านคนสุดท้าย ได้เข้าใจ คลายความกังวล และเข้ารับวัคซีนกันทุกคน รวมถึงผู้ที่อยู่นอกสิทธิในประเทศด้วย

จากรายงานประจำวันเห็นได้ว่า ประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 86,000,000 โดส ยืนยันว่าปีนี้มีวัคซีนอย่างเพียงพอ สำหรับปีหน้าคาดว่าจะมีวัคซีนอย่างน้อย 90,000,000 โดส วัคซีนแอสตราเซเนก้า 60,000,000 โดส และวัคซีนไฟเซอร์ 30,000,000 โดส ไม่รวมวัคซีนโปรตีนโนวาแวกซ์ วัคซีนที่ทางองค์การเภสัชกรรม และวัคซีนคณะแพทย์ที่กำลังพัฒนากันอยู่ เพื่อให้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 กันถ้วนหน้า พร้อมกับการสำรวจภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2564 ได้รับข่าวว่า รัฐบาลฝรั่งเศสบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 400,000 โดส พร้อมส่วนผสมและไซลิงค์ให้กับไทย ซึ่งจะมีการจัดสรรวัคซีนต่อไป 

"หากฉีด 11 ล้านคนนี้ได้ ประเทศไทยถือว่าเราฉีดวัคซีนแทบทุกคน ในทางประชาสัมพันธ์ เราจะบอกได้ว่า ไทยเราจะฉีดวัคซีนครบ 100% มากกว่าภูมิคุ้มกันหมู่ตามหลักระบาดวิทยา แต่เรามีวัคซีนพร้อมฉีดให้ครบตามความต้องการของประชากร ซึ่งจะทำให้สังคมโลกมองเห็นว่า ไทยเราจริงจังเรื่องการดูแลประชาชน และศักภาพการจัดหาวัคซีน ความสามารถบุคคลากรสาธารณสุข มันเป็นสถิติที่ควรทำเอาไว้"