ยังไม่พบ "พลายหนูซิง" ใช้โดรนความร้อนบินเสริม ตร.เผยพอรู้คนยิงแล้ว (คลิป)

ความคืบหน้ากรณีพลายหนูซิง ช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 20 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ในพื้นที่หมู่ 14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่คืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโดย นายวีระพงศ์ โคระวัตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อประเมินการช่วยเหลือ แต่เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พลายหนูซิงได้หายตัวไปจากบริเวณป่าอ้อยที่พบตัวเป็นจุดสุดท้าย จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว

โดย นายวีระพงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เปิดเผยว่า ได้จัดชุดลาดตระเวนตามหาหนูซิง พบร่องรอยช้างเดินแบบขาลาก แต่มีรอยเท้าช้างแบบฝูงมากลบทับ ทำให้ตามรอยได้ยากขึ้น จึงจัดทีมขยายพื้นที่การค้นหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และอาสาสมัคร รวมกว่า 50 นาย โดยแบ่งเป็น 4 ชุด เพราะช้างป่าเขาอ่างฤาไนมีนับร้อยตัว แบ่งออกเป็นฝูงย่อย ไม่แน่ใจว่าหนูซิงอยู่กับฝูงไหน ประเมินจากร่องรอยที่พบ สันนิษฐานว่ามีช้างในฝูงเดียวกันมาช่วยประคอง พลายหนูซิง มุ่งหน้าเข้าป่าไปร่วมกับช้างตัวอื่น ๆ ในฝูง

ด้าน สัตวแพทย์หญิง สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวถึงอาการบาดเจ็บที่ประเมินจากภาพที่ได้มาว่า พบบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ทั่วทั้งตัว ทั้งกลางหลัง ข้างลำคอ ใบหู ขาหน้า และโคนงวง ซึ่งบาดแผลบริเวณกลางหลังนั้น พลายหนูซิง ได้ใช้งวงดูดเอาโคลนมาโปะ เพื่อรักษาตัวเอง บรรเทาความเจ็บปวด แต่บาดแผลขนาดนี้เชื่อว่าจะเกิดการอักเสบรุนแรง ถ้าปล่อยไว้พลายหนูซิงมีโอกาสเสี่ยงถึงชีวิต จึงอยากหาให้เจอโดยเร็วเพื่อรีบรักษา

ส่วน นายตาล วรรณกูล อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม ซึ่งเป็นชุดติดตามและผลักดันช้างกรณีออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงการตามหาพลายหนูซิงว่า เมื่อวานนี้สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย (DRAT) ได้ช่วยนำโดรนความร้อนมาบินตามหา เจอช้าง 12-13 ตัว แต่ไม่เจอหนูซิง ส่วนรอยเท้าที่พบ ทิศทางมุ่งหน้ากลับเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยรอยสุดท้ายที่พบเมื่อค่ำวันที่ 16 พฤศจิกายน อยู่ห่างจากรอยต่อป่า 10 กิโลเมตร โดยธรรมชาติช้างจะเดินได้ระยะประมาณ 1 กิโลเมตรต่อวัน หรือต่ำกว่านี้ ระหว่างนี้หากปูพรมค้นหาก็น่าจะเจอตามเส้นทาง ซึ่งเมื่อฝูงมีช้างบาดเจ็บก็อาจหากินได้ช้าลง หรือต้องแยกจากฝูง



ขอบคุณคลิปจากสมาคม DRAT

ขณะที่ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า หลังตำรวจท้องที่ทราบเรื่องก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว จากนั้นมีการประสานมายังตนเอง เพราะโรงพักท้องที่มีกำลังน้อย จึงได้ส่งทีมลงไปเสริม โดยวานนี้ (17) ได้ร่วมกับป่าไม้ ทหารพราน และอาสาสมัคร ลงไปค้นหาวัตถุพยานในบริเวณที่คาดว่าเป็นจุดเกิดเหตุ แต่ไม่พบปลอกกระสุนหรือหัวกระสุนใด ๆ อาจเพราะเหตุเกิดหลายวันแล้ว จากนี้คงต้องตามหาหนูซิงให้พบ แล้วนำหัวกระสุนในตัวหนูซิงมาเปรียบเทียบ ทั้งนี้พอรู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ไม่มีหลักฐาน จึงขอวิงวอนผู้ที่พบเห็นหรือมีข้อมูลช่วยแจ้งมายังตนเอง หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย