ข่าว

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง เหตุประท้วงราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้นหลังจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการขอให้เหล่าทัพเตรียมรถใหญ่สำหรับขนส่งสินค้าเมื่อจำเป็น

กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และหน่วยขึ้นตรงดำเนินการตรวจสภาพความพร้อม ของกำลังพลและยานพาหนะในการเตรียมความพร้อมการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล หลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการขอให้เหล่าทัพเตรียมรถใหญ่สำหรับขนส่งสินค้าเมื่อจำเป็น กรณี "รถบรรทุก" ประท้วงหยุดวิ่ง ดังนั้นเพื่อไม่ให้ประชาชนประสบปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้น จากการหยุดขนส่งในอนาคตโดยได้เตรียมรถไว้  34 คัน

 

ทั้งนี้ รถที่เตรียมไว้คือ รถ FTS เป็น "รถยนต์บรรทุก" ขนาด 2 ตัน ปกติใช้ลำเลียงพลพร้อมสัมภาระทางทหารไม่น้อยกว่า 12 นาย รวมทั้งสามารถลากจูงยุทโธปกรณ์ โดยขับเคลื่อนได้พร้อมกันทั้ง 4 ล้อ ลงน้ำลึกได้ 80 เซนติเมตร มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ทั้งบนทางราบและทางในภูมิประเทศ สะดวกต่อการซ่อมบำรุง น้ำหนักรถ รวมน้ำหนักบรรทุก 200 กิโลกรัม

 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าโดยรถทหารนั้น จะคิดค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ ตามระยะทางจริง ทั้งวิ่งรถในจังหวัด หรือข้ามจังหวัด

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

เมื่อวานนี้ (1ุ6 พ.ย. )พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกล่าวถึงการที่ "รถบรรทุก"นำขบวนรถบรรทุกมาเรียกร้องรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 25 บาท ที่หน้ากระทรวงแรงงานว่า มีคนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลต้องดูแลทุกกลุ่มทุกสมาคม ขออย่าใช้แรงกดดันเลยเห็นใจประเทศชาติกันบ้างในเวลานี้และได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมจัดรถไฟและรถบขส.พร้อมรับส่งสินค้าให้แทนและถ้ามีความจำเป็นก็ใช้ รถทหาร สนับสนุนให้ด้วย

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

ด้านกลุ่มสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยนำโดยอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯเมื่อวานนี้ ( 16 พ.ย. ) จัดกิจกรรมTruck Power ซีซั่น 2 นำรถบรรทุกออกมาแสดงพลังจากภาคการขนส่งในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซล ที่ 25 บาทต่อลิตร

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

โดยได้เคลื่อนขบวนรถหลายร้อยคัน จาก4เส้นทาง ถนนสายสุขุมวิท/ ถนนบางนา-ตราด/ ถนนกาญจนาภิเษก/และถนนสายเอเชีย มายังกระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยมี นายสมบูณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นตัวแทนมารับหนังสือ 

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

ทหาร เตรียมพร้อมกำลังพล-ยานพาหนะ รับสถานการณ์ หาก "รถบรรทุก" หยุดวิ่ง

โดยนายอภิชาติ ระบุว่า ยังคงยืนยันในข้อเรียกร้องเดิมคือ ตรึงราคา "น้ำมันดีเซล"ที่ 25บาทต่อลิตร ลดภาษีสรรพสามิตลง 5 บาท​ต่อลิตร และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนพลังงาน​ เป็นระยะเวลา 1 ปี และการยื่นหนังสือวันนี้เพื่อต้องการให้กระทรวงพลังงานและรัฐบาลเปิดโต๊ะเจรจาในการหารือปรับลดราคาน้ำมันร่วมกัน และไม่ใช่เป็นการกดดันรัฐบาลแต่มาเพื่อสะท้อนปัญหาความเดือดร้อน

 

จึงขอให้รัฐบาลอย่ามองขัามปัญหานี้โดยจะขีดเส้นใน15วันจะต้องมีความชัดเจนจากรัฐบาล หากยังไม่ชัดและยังไม่มีการเปิดโต๊ะเจรจา จะยกระดับการเคลื่อนไหวในมาตรการต่อไปคือ ให้รถบรรทุกจะเติมน้ำมัน 20ลิตร แล้วขับรถเข้ากรุงเทพ หากน้ำมันหมดตรงไหนจอดตรงนั้น และหากรัฐมนตรีพลังงานไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ควรที่จะลาออกไป

 

นายอภิชาติ ยืนยันว่า จะมีการยกระดับขับไล่รัฐมนตรีอย่างแน่นอนและจะเป็นการเคลื่อนไหวก่อนจะยกระดับในมาตรการขั้นสุดคือ ปรับราคาภาคการขนส่งขึ้น 10% ในวันที่1 ธ.ค.นี้ ซึ่งมาตรการนี้หากประกาศไปจะส่งผลกระทบกับราคาสินค้าอุปโภค บริโภคด้วย โดยหลังจากนี้จะเข้าไปชี้แจงกับกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ เขัามาช่วยผลักดันการแก้ไขปัญหา

ขณะที่รองปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุด้วยว่า หลังจากนี้จะนำเสนอเรื่องให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหลังกลับจากประชุม คณะรัฐมนตรี ที่ จ.กระบี่ ซึ่งในเบื้องต้น เรื่องนี้เกี่ยวข้องในหลายกระทรวงทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ จึงต้องเรียกทุกกระทรวงมาหารือร่วมกันก่อน ส่วนจะทำได้ในราคา 25บาท ตามข้อเรียกร้องหรือไม่นั้น ทางกระทรวงพลังงานก็ได้มอบหมายคณะทำงาน กรมธุรกิจพลังงานไปศึกษารายละเอียดเรื่องนี้แล้ว

 

ทั้งนี้ทางกลุ่มสหพันธ์ภาคการขนส่งแห่งประชาชนไทย ได้เสนอให้มีการนำไบโอดีเซลออกจากระบบของพลังงานเพราะมองว่า จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงมาได้ และในขณะนี่ภาคการขนส่งต้องแบกรับค่าต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง20% โดยจะต้องให้คนขับรถบรรทุกมาร่วมออกในส่วนนี้ด้วย

 

สำหรับบรรยากาศที่หน้ากระทรวงพลังงาน หลังจากที่กลุ่มรถบรรทุกเคลื่อนขบวนมาถึง ก็ได้จอดรถบรรทุกหลายร้อยคันไว้บนถนนวิภาวรดฝั่งขาเข้าและขาออกในเลนส์ซ้ายสุดของช่องหลัก ยาวเกินกว่า1กิโลเมตร และบางส่วนจอดทำกิจกรรมแสดงพลังหน้าประตูทางเข้าออกหลักของกระทรวงพลังงาน โดยได้ทำกิจกรรมทั้งการพูดถึงเหตุผลของการออกมาแสดงพลัง โครงสร้าง "ราคาน้ำมัน"และผูกริบบิ้นเขียว ส่งพวงหรีด หน้าประตูด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและคออำนวยความสะกวกการจราจรไม่ให้กระทบกับปะชาชน ที่ใช้เส้นทางสัญจร

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้ยกระดับการเคลื่อนไหวมาแล้วถึง2ครั้ง คือวันที่ 19ตุลาคม ในการนำรถออกมาแสดงพลังรอบปริมณฑล และวันที่ 1 พ.ย.หยุดการเดินรถภาคการขนส่งไป20% ทำให้เหลือรถวิ่งอยู่ 70,000-80,000 คันเท่านั้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ