ข่าว

"ทุกข์ชาวนา" น้ำจะท่วม หรือ ฝนจะแล้ง จะได้ข้าวหรือไม่ ปีหน้ารอลุ้นอีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

น้ำท่วมขัง นาข้าวจมน้ำเสียหายหลายพันไร่ บางพื้นที่น้ำเริ่มลด มองเห็นต้นข้าวยืนต้นอยู่ และเริ่มออกสีคล้ำใกล้ตาย

เราทราบดีว่า ประเทศไทย เป็นเมืองเกษตรกรรม การทำนาถือเป็นมรดกตกทอด จากกรุ่นสู่รุ่น ข้อดีของนาข้าวแต่ละภาค จะมีพันธุ์ข้าวเฉพาะถิ่นที่แตกต่างกัน เราจะได้รับประทานข้าวอร่อยได้หลากหลาย ขณะที่ชาวบ้านเอง ได้ทำนาปลูกข้าวไว้ เพื่อรับประทาน และขายข้าวไว้เลี้ยงครอบครัว แต่การทำนา จากอดีตถึงปัจจุบัน ล้วนเกิดอุปสรรคหลายปัจจัย ที่ชาวนาต้องแบกรับภาระมายาวนาน ทั้งปุ๋ยราคาแพง ขายข้าวไม่ได้ราคา เป็นต้น

 

แต่อุปสรรคที่ชาวนาไม่สามารถคาดเดาได้ เห็นจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศ ว่าจะมีน้ำเพียงพอ หรือ ไม่มีน้ำ ซ้าร้ายหนักสุดอย่างปีนี้ น้ำฝนปริมาณมาก เอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าว บางพื้นที่ระบายไม่ได้ ข้าวที่รอเก็บเกี่ยวจมน้ำเสียหาย ทั้งที่ก่อนทำนาชาวบ้านได้ลงทุนไปมากแล้ว

 

 

เมื่อวานนี้ที่จังหวัดสุรินทร์ มีภาพชาวนา มาช่วยกันเกี่ยวข้าว หรือที่เรียกว่า "ลงแขก" ซึ่งเป็นภาพที่เราชินตาในความร่วมมือของชาวบ้าน แต่คราวนี้ นาข้าวถูกท่วมขังร่วมเดือน ไม่สามารถลงไปเกี่ยวข้าวตามปกติได้ จนมากลายเป็นภาพ "นั่งเรือลงแขกเกี่ยวข้าว" แทน

"ทุกข์ชาวนา" น้ำจะท่วม หรือ ฝนจะแล้ง จะได้ข้าวหรือไม่ ปีหน้ารอลุ้นอีก

 

นี่เป็นบรรยากาศ ที่เขต ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พื้นที่ติดลำน้ำมูล และผลพวงจากมวลน้ำไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา ลงมาตามลำน้ำมูล ผ่านพื้นที่ จ.สุรินทร์ พร้อมกับมีพายุโซนร้อนทำให้มีฝนตกกระจาย ส่งผลให้จังหวัดสุรินทร์ เกิดน้ำท่วมขัง นาข้าวจมน้ำเสียหายหลายพันไร่ บางพื้นที่น้ำเริ่มลด มองเห็นต้นข้าวยืนต้นอยู่ และเริ่มออกสีคล้ำใกล้ตาย ชาวบ้านต่างพากันนำเรือพาย ออกเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่ยังเหลืออยู่ เอาไปตากให้แห้ง เก็บไว้รับประทานในครอบครัว

 

นางจันทา ยี่รัมย์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บอกว่า ปีนี้น้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 10 ปี เนื้อที่ปลูกข้าว 5 ไร่ ตามปกติจะได้ผลผลิตประมาณ 2 ตัน แต่ปีนี้น้ำท่วมขังนาน ข้าวเริ่มเน่า ส่วนที่เหลือก็มีแต่เปลือกข้าว ข้างในไม่มีเมล็ด ปีก่อนๆที่เคยท่วม น้ำไหลผ่าน ไม่เอ่อท่วมขังนาน ต้นข้าวจึงไม่เสียหายมาก แต่มาปีนี้น้ำท่วมขังมากว่า 1 เดือนแล้ว 

 

สำหรับในพื้นที่ตรงนี้ เคยคาดว่า พอจะได้ข้าวบ้าง แต่กลับไม่ได้ เพราะข้าวไม่มีเมล็ด โรงสีคงไม่รับซื้อ ถึงราคาจะ 3-4 บาทก็คงไม่รับซื้อ ต้องเก็บไปตากให้แห้ง แล้วนำไปสีไว้กินในครอบครัว ดีกว่าต้องไปซื้อข้าวสารจากพ่อค้าในราคาที่แพง แต่ก็ไม่รู้ว่า ข้าวสารรอบนี้จะมีกินถึงปีหรือไม่

"ทุกข์ชาวนา" น้ำจะท่วม หรือ ฝนจะแล้ง จะได้ข้าวหรือไม่ ปีหน้ารอลุ้นอีก

ส่วนในปีหน้า น้ำจะท่วมหรือฝนจะแล้ง ก็ยังบอกไม่ได้ จะได้ข้าวอีกหรือไม่ ก็ต้องรอลุ้นอีก เบื้องต้นทางอำเภอท่าตูม ก็ได้ลงพื้นที่ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือของทางรัฐบาล ตนเองก็พอใจ

 

สำหรับสภาพอากาศของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 วันข้างหน้า กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 16 - 21 พ.ย. 64 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมแรงในวันที่ 22 พ.ย. 64 อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

"ทุกข์ชาวนา" น้ำจะท่วม หรือ ฝนจะแล้ง จะได้ข้าวหรือไม่ ปีหน้ารอลุ้นอีก ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ