ข่าว

ลือหึ่ง "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หนีซบเมียชาวกัมพูชา ตำรวจเร่งประสานทูตตรวจสอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลือหึ่ง "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หนีซบเมียชาวกัมพูชา ขณะที่ ผบช.ก. พร้อมประสานทูตตรวจสอบ ยืนยัน เหตุไม่อายัดตัว ต้องตรวจสอบทั้งตำรวจและศาล

จากกรณีนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" ผู้ต้องหา คดีร่วมกันฟอกเงิน และค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากที่ยื่นประกันตัวต่อศาลจังหวัดสงขลา  แต่ภายหลังพบว่า มีหมายจับในคดีอื่นที่จังหวัดปัตตานี โดยตำรวจไม่ได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดี เนื่องจากระบุว่า ไม่พบหมายจับในระบบนั้น 

 

(15พ.ย.)  เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ขณะจับกุมผู้ต้องหา ตำรวจได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว แต่เมื่อไม่พบหมายจับในระบบ ก็จำเป็นต้องปล่อยตัวไปตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยหลังจากได้หมายจับมาแล้ว พนักงานสอบสวนก็ขอหมายค้นบ้านจากศาลอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบตัว และเชื่อว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปแล้ว ส่วนหนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา เป็นของจริง เนื่องจาก "เสี่ยโจ้ ปัตตานีมีภรรยาชาวกัมพูชาอยู่ด้วย ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้สถานทูตตรวจสอบควบคู่กันไปด้วย


 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีสำนักงานศาลยุติธรรม ชี้แจงว่า ได้ส่งหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ให้ตำรวจตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2557 ไปแล้วนั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ต้องไปตรวจสอบว่า ทำไมหมายจับจึงไม่เข้าระบบ ตำรวจรับมาจริงหรือไม่ รับมาแล้วมีการนำเข้าระบบหรือไม่ เป็นความบกพร่องของใคร ในส่วนของศาล ก็ต้องเช็คว่าไม่ลงระบบเพราะอะไร ตอนนี้ยังไม่สรุปว่าใครผิดหรือถูก เป็นเรื่องที่คงต้องตรวจสอบกันตามข้อเท็จจริง ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมหมายจับไม่เข้าระบบ โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้สถานทูตตรวจสอบควบคู่กันไปด้วย 


รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังที่ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี ได้รับการปล่อยตัวและไม่มีการอายัดตัวนั้น คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนีไปพบภรรยาชาวกัมพูชา ที่ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบว่า ขณะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชานั้น ได้ใช้เส้นทางตามด่านชายแดนหรือไม่ หรือใช้ช่องทางธรรมชาติ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ