ข่าว

"อดีตยากูซ่า" เปิดบริษัทหลอกขาย "ถุงมือยาง" ไร้คุณภาพ เสียหายกว่า 286 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ บก.ปอศ. อดีต "ยากูซ่า" ลอบเปิดบริษัทหลอกขายถุงมือยาง ไม่มีคุณภาพ ส่งขายไปทั้งใน ต่างประเทศ พบสินค้าไร้คุณภาพมูลค่ากว่า 286 ล้านบาท

15 พ.ย. 2564  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)   ร่วมกับ บก.ปอศ. จับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบผลิตเครื่องมือทางการเเพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ได้เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งบริเวณหมู่ 11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบกล่องบรรจุถุงมือยางทางการแพทย์ จำนวนกว่า 10,000 กล่อง และพบถุงมือยางที่รอบรรจุมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่าโกดังหลังดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายโอซาวาฯ (กรรมการบริษัทฯ) ซึ่งเป็นเจ้าของโกดังดังกล่าว ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 350/2564 ลง 6 พ.ย.64 ฐาน “ร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้จดทะเบียนสถานประกอบการและผลิตเครื่องมือแพทย์ปลอม” ตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2562

 

โดยในวันที่ 11 พ.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัวนายโอซาวา "อดีตยากูซ่า" ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

"อดีตยากูซ่า" เปิดบริษัทหลอกขาย "ถุงมือยาง" ไร้คุณภาพ เสียหายกว่า 286 ล้าน

 

และในวันเดียวกัน ตำรวจสามารถจับกุม น.ส.ศุภนิดา อายุ 24 ปี (ภรรยาของนายโอซาวา) ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่ง น.ส.ศุภนิดา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” มักมีพฤติการณ์หลอกขายถุงมือยางที่ไม่ได้คุณภาพ หรือจัดส่งถุงมือยางที่ไม่ครบตามจำนวนให้กับผู้เสียหาย โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินซื้อถุงมือยางมูลค่าความเสียหายเกือบ 4 ล้านบาท จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ต่อมาในวันที่ 12 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 6 ตู้ ณ ลานฝากตู้คอนเทนเนอร์ ย่าน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบถุงมือยางปลอม รวมจำนวนกว่า 10 ล้านชิ้น ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นของนายโอซาวา ด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดอายัดของกลางดังกล่าว และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

"อดีตยากูซ่า" เปิดบริษัทหลอกขาย "ถุงมือยาง" ไร้คุณภาพ เสียหายกว่า 286 ล้าน

 

หลังจากมีการจับกุมนายโอซาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายเเล้ว ต่อมาทาง บก.ปอศ. ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลในสารบบพบว่า นายโอซาวา  มีพฤติการณ์หลอกขายถุงมือยางทางการแพทย์ให้กับชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนหลายราย มีผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความเสียหายไปเป็นเงินกว่า 180 ล้านบาท และผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับความเสียหายไปเป็นเงินกว่า 88 ล้านบาท โดยผู้เสียหายทั้งสองบริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ที่ บก.ปอศ. และศาลได้ขออนุมัติหมายจับไว้แล้ว ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.577/2564 ลง 12 พ.ย.64 และหมายจับของศาลอาญา ที่ 1916/2564,1917/2564 ลง 12 พ.ย.64 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้จดทะเบียนสถานประกอบการ, ร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต, และร่วมกันผลิตเครื่องมือแพทย์ปลอม” 

 

"อดีตยากูซ่า" เปิดบริษัทหลอกขาย "ถุงมือยาง" ไร้คุณภาพ เสียหายกว่า 286 ล้าน

 

ต่อมาวันที่ 13 พ.ย.2564  นายโอซาวา ได้รับการประกันตัวจากการถูกจับกุมในคดีก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนายโอซาวา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ  บก.ปอศ. อีก 2 หมายจับ โดยสามารถจับกุมนายโอซาวาฯ ได้ที่บริเวณซอยจอมเทียน 5 ต.หนองปรือ  อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากนั้นจึงได้นำตัวนายโอซาวา ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

จากการสืบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายโอซาวา มีบัญชีเงินฝากที่มีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้กับคนใกล้ชิด และครอบครองรถยนต์หรูไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พฤติการณ์ในการหลอกลวงขายถุงมือยางของนายโอซาวา  มักจะกระทำผิดในรูปแบบเดียวกันเป็นจำนวนหลายครั้ง ฉวยโอกาสในช่วงขาดแคลนถุงมือยางในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเป็นจำนวนหลายคดี มีบางคดีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติยื่นฟ้องต่อศาลเอง นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายโอซาวาฯ รวมมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 286 ล้านบาท

 

ในส่วนของการกระทำของนายโอซาวา ซึ่งนอกจากจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว ยังน่าเชื่อว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3(18) ซึ่งทาง บก.ปอศ. ได้ดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตรวจสอบทรัพย์สินและธุรกรรมทางการเงินของนายโอซาวา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ