ข่าว

ราชกิจจาฯ ออกประกาศเพิ่มช่องทางยื่นคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์

14 พ.ย.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔

 

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอรับค่าตอบแทน ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือสื่อ ทางอิเล็กทรอนิกส์

 

เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการยื่นคำขอผ่านช่องทางดังกล่าวในการช่วยเหลือ ประชาชนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการรับบริการ รวมทั้งใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในการรับคำข ตรวจสอบและแจ้งผลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไข เพิ่มเติม และข้อ ๖ วรรคสองของระเบียบคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาว่าด้วยการยื่นคำขอ และวิธีพิจารณาคำขอค่าตอบแทน ค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙

 

คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔"

 

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ ๒ ของประกาศคณะกรรมการพิจารณา ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ าเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอ ผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ข้อ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ และข้อ ๑๒ แห่งประกาศคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เรื่อง เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอผ่านทางไปรษณีย์ โทรสาร หรือ สื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔

 

"ข้อ ๓ ในประกาศนี้ "ผู้มีสิทธิยื่นคำขอ" หมายความว่า ผู้เสียหาย จำเลย หรือทายาท 

 

"สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย ในคดีอาญา และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดที่ได้รับการกำหนดเป็นหน่วยงานในสำนักงานและมอบหมาย  ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

“เจ้าหน้าที่” หมายความว่า ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือบุคคลใดที่ได้รับมอบหมาย จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาให้ปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศนี้

 

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามระเบียบนี้

 

“ไปรษณีย์” หมายความว่า ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับและไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับด่วนพิเศษ

 

“โทรสาร” หมายความว่า ระบบสื่อสารที่ใช้ส่งและรับรูปภาพหรือข้อความในรูปของ คลื่นสัญญาณไฟฟ้าผ่านระบบโทรคมนาคม

 

“สื่ออิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า สื่อบันทึกข้อมูลหรือสารสนเทศใด ๆ ที่ใช้วิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือวิธีอื่นใด ในลักษณะคล้ายกันและให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น

 

“คำขอ” หมายความว่า คำขอรับค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่าย ตามพระราชบัญญัตินี้ รวมถึงเอกสารท้ายแบบคำขอ

 

ข้อ ๔ ให้สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาออกประกาศ แจ้งที่อยู่ หมายเลขโทรสาร หรือที่อยู่สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานที่จะรับคำขอทางไปรษณีย์ ทางโทรสาร หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และให้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้มีสิทธิยื่นค าขอสามารถติดต่อกับ สำนักงานให้ทราบโดยทั่วกัน กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตามวรรคหนึ่ง ให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องแจ้งสำนักงานช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาทราบเป็นหนังสือ เพื่อประกาศเพิ่มเติมให้ประชาชน ทราบต่อไป

 

ข้อ ๕ ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอ ต้องยื่นคำขอตามแบบคำขอที่สำนักงานประกาศกำหนด ในราชกิจจานุเบกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ พร้อมแนบเอกสารและหลักฐานตามที่ ระบุไว้ท้ายแบบคำ ขอ

ข้อ ๖ การยื่นคำขอตามข้อ ๕ ต้องยื่นภายในกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้

(๑) กรณีผู้เสียหาย ให้ยื่นคำขอภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้เสียหายได้รู้ถึงการกระทำความผิด

(๒) กรณีจำเลยในคดีอาญา ให้ยื่นคำขอภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งอนุญาต ให้ถอนฟ้องเพราะปรากฏหลักฐานว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิด หรือวันที่มีคำพิพากษาอันถึงที่สุด ว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด

 

ข้อ ๗ การยื่นคำขอและเอกสารทางไปรษณีย์ไม่ว่าจะได้ยื่นต่อพนักงานไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต ให้ถือว่า  วันที่ไปรษณีย์ต้นทางออกใบรับฝากหรือประทับตรารับที่ซองเป็นวันที่ผู้มีสิทธิยื่นคำขอได้ยื่นคำขอ ต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามประกาศนี้แล้ว ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอจ่าหน้าซองไปรษณีย์ถึงสำนักงานให้ถูกต้องและชัดเจน หากจ่าหน้าซอง ไม่ถูกต้องทำให้คำขอและเอกสารนั้นส่งไม่ถึงสำนักงาน กรณีนี้แม้จะได้ยื่นคำขอนั้นต่อพนักงานไปรษณีย์ โดยครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ถือว่าผู้มีสิทธิยื่นคำขอนั้นยังมิได้ยื่นคำขอต่อสำนักงาน

 

ข้อ ๘ การยื่นคำขอและเอกสารทางโทรสารจะต้องมีข้อความสมบูรณ์ชัดเจนและมีจำนวนหน้า ครบถ้วนตามใบนำส่งเอกสารทางโทรสาร และต้นฉบับที่จัดส่งมาให้สำนักงานภายในเจ็ดวัน หลังจากยื่นคำขอให้ถือว่าวันที่ปรากฏในหลักฐานการรับโทรสารของสำนักงานเป็นวันที่ผู้มีสิทธิยื่นคำขอ ได้ยื่นคำขอต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามประกาศนี้แล้ว หากการยื่นคำขอและเอกสารตามวรรคหนึ่งได้กระทำนอกเวลาหรือนอกวันทำการปกติ ของสำนักงาน ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอโทรศัพท์แจ้งสำนักงานในวันทำการแรกที่เปิดทำการปกติถัดไป

 

ทั้งนี้ หากต้นฉบับที่ส่งไม่ตรงกับเอกสารที่ส่งมาทางโทรสาร ให้ถือต้นฉบับที่ส่งเป็นสำคัญ เว้นแต่สำนักงาน มีความเห็นเป็นอย่างอื่น กรณีที่ผู้มีสิทธิยื่นคำขอส่งคำขอและเอกสารไปยังหมายเลขโทรสารอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ ในประกาศตามข้อ ๕ ทำให้คำขอและเอกสารนั้นส่งไม่ถึงสำนักงาน ให้ถือว่าคำขอนั้นยังมิได้ยื่นต่อ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ

 

ข้อ ๙ การยื่นคำขอและเอกสารทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้ส่งไปยังที่อยู่สื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามที่ กำหนดไว้ในประกาศข้อ ๔ และให้ถือว่าวันที่สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลย ในคดีอาญาได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เป็นวันที่ผู้มีสิทธิยื่นคำขอได้ยื่นคำขอ ต่อคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามประกาศนี้แล้ว ในการส่งคำขอและเอกสารที่ผู้มีสิทธิยื่นคำขอจะส่งทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะต้องอยู่ในรูปแบบ ที่เหมาะสม โดยสามารถแสดงหรืออ้างอิงเพื่อใช้ในภายหลังและยังคงความครบถ้วนของข้อความ ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งต้องสามารถระบุตัวผู้ส่งและผู้ส่งรับรองข้อความในข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์นั้นได้ ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอจัดส่งต้นฉบับคำขอและเอกสารต่อสำนักงานช่วยเหลือทางการเงิน แก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาภายในเจ็ดวันหลังจากยื่นคำขอ หากต้นฉบับที่ส่งไม่ตรงกับเอกสาร ที่ส่งมาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ถือต้นฉบับที่ส่งเป็นสำคัญ เว้นแต่สำนักงานมีความเห็นเป็นอย่างอื่น

 

ข้อ ๑๐ เมื่อสำนักงานได้รับคำขอและเอกสารที่ยื่นทางไปรษณีย์หรือโทรสาร ให้ลงรับคำขอ และเสนอต่อผู้อำนวยการเพื่อมอบหมายเจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ให้สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญารับคำขอทางสื่อ อิเล็กทรอนิกส์โดยรวบรวมคำขอและเอกสาร ลงรับคำขอและเสนอต่อผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา เพื่อมอบหมายเจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้รับผิดชอบ คำขอที่ได้รับไว้แล้วให้บันทึกการรับคำขอไว้ในทะเบียนการรับคำขอในระบบคอมพิวเตอร์ โดยกรอกรายละเอียดชื่อ สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และพฤติการณ์แห่งคดีเบื้องต้น แล้วออก ใบรับคำขอจากระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อแจ้งให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอทราบไว้เป็นหลักฐาน

 

ข้อ ๑๑ ให้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจสอบคำขอและเอกสารหลักฐาน ประกอบคำขอให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และแจ้งผลการรับคำขอต่อไป กรณีคำขอและเอกสารหลักฐานประกอบค าขอไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้เจ้าหน้าที่หรือพนักงาน เจ้าหน้าที่จัดทำบันทึกความบกพร่อง และรายการเอกสารหลักฐานที่จะต้องแก้ไข หรือยื่นเพิ่มเติม พร้อมกำหนดระยะเวลาสามสิบวัน และแจ้งผู้ยื่นคำขอทราบเพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม หากผู้ยื่นคำขอไม่ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องหรือยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน สมบูรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด สำนักงานจะถือว่าผู้ยื่นคำขอไม่ประสงค์จะดำเนินการต่อไป และ คืนคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน รวมทั้งแจ้งสิทธิการยื่นคำขอใหม่ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อเอกสารหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

 

ข้อ ๑๒ เมื่อสำนักงานรับคำขอแล้วให้แจ้งผลการรับคำขอ และส่งใบรับคำขอนั้นให้ผู้มีสิทธิ ยื่นคำขอทราบ ในกรณีมีบันทึกความบกพร่องและรายการเอกสารหลักฐานที่จะต้องแก้ไข หรือ ยื่นเพิ่มเติมให้แจ้งผู้มีสิทธิยื่นคำขอทราบพร้อมกับการแจ้งผลการรับคำขอ การแจ้งผลการรับคำขอให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอทราบ สำนักงานอาจแจ้งทางไปรษณีย์ โทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นที่สำนักงานกำ หนด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลา ที่ระบุไว้ในคู่มือการปฏิบัติงานที่สำนักงานจัดทำขึ้น หากเจ้าหน้าที่หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ไม่แล้วเสร็จให้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอทราบถึงเหตุแห่งความล่าช้าทุกเจ็ดวัน จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ”

 

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙  กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ 

 

วัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 

logoline