เปิดไทม์ไลน์การชุมนุมใหญ่ของ"ม็อบ14 พ.ย." กลุ่มราษฎร-กลุ่มไม่เอาสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า 3 แกนนำมีการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง “คมชัดลึก” ประมวลสถานการณ์โดยรวมและเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมมาให้ได้ติดตามกัน
14 ต.ค. 63 : วันแรกของการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ผ่านจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีเต็มที่ผู้ชุมนุมในนามกลุ่มราษฎรได้นัดชุมนุมกับมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท้องสนามหลวง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห้าแยกลาดพร้าว แยกปทุมวัน แยกดินแดง หรือแม้แต่ที่กรมทหารราบที่ 1
10 ส.ค. 63 : ผู้ชุมนุมรวมตัวกันชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในกิจกรรม "ธรรมศาสตร์
จะไม่ทน" โดยแกนนำได้ปราศรัยและเรียกร้อง 10 ข้อเสนอในการปฏิรูปสถาบัน จนนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
10 พ.ย. 64 : ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ 3 แกนนำกลุ่มราษฎร คือนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก(ไมค์) และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล(รุ้ง) ว่าการกระทำเข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง และขอให้เลิกการกระทำ รวมทั้งเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
13 พ.ย. 64 : กลู่มผู้ชุมนุม "ม็อบ14พฤศจิกา64" ได้นัดรวมตัวกันชุมนุมเวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและจะเคลื่อนขบวนไปที่ท้องสนามหลวง โดยตั้งเป้าการชุมนุมเพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเรียกร้อง 10 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันตามเดิม
14 พ.ย. 64 : ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ประมาณ 30-40 คน ได้นัดรวมตัวกันทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เกี่ยวกับการต่อต้านสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก่อนจะเดินทางไปชุมนุมกันบริเวณท้องสนามหลวง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า 200 นาย เข้ากระชับพื้นที่โดยการปิดพื้นที่การจราจรเป็น 4 มุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่สามารถเดินทางไปสนามหลวงได้ จึงประกาศเปลี่ยนจุดรวมตัวกันใหม่เป็นบริเวณแยกปทุมวัน
13.55 น. : กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มที่จะเคลื่อนขบวนไปบริเวณแยกปทุมวัน โดยมุ่งหน้าไปยังแยกป้อมพระกาฬ จากนั้นเมื่อถึงสี่แยกสะพานขาว ได้เลี้ยวขวา
14.43 น. : กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บริเวณสี่แยกเจริญผล ถนนพระรามที่1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
15.00 น. : กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางถึงแยกปทุมวัน ก่อนจะเริ่มจัดกิจกรรม บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่เขตปทุมวันกรุงเทพฯ นอกจากนี้ พบว่าบริเวณสี่แยกปทุมวันมีการปิดการจราจรในบางช่องทางทำให้การจราจรติดขัดรถที่สัญจรไปมาเกิดการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันเริ่มมีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุมบ้างแล้ว
16.45 น. : ตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมอาวุธประจำกาย ตั้งแถวปิดถนนแยกเฉลิมเผ่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บนสกายวอร์กข้ามแยกเฉลิมเผ่า ประกาศให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องลงมาด้านล่างทั้งหมด
17.10 น. : กลุ่มผู้ชุมนุมจึงหันหัวขบวนมาทางขวา มุ่งหน้าถนนอังรีดูนังต์
17.12 น. : เริ่มมีเสียงดังคล้ายอาวุธ ปืน คาดว่าจะมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นพบว่ามี 1 ในผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย โดยพบว่าถูกกระสุนยางยิงเข้าหน้าอก ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลรีบมารับตัวไป จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเดินเท้าไปถนนอังรีดูนังต์ ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการโปรยกระดาษ A4 ที่พิมพ์ข้อความด้วยตัวหนังสือสีดำว่า "3 ป. สิวๆ 3 นิ้ว เด็ดกว่า" และ "เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ"
17.45 น. : หัวขบวนถึงบริเวณสี่แยกอังรีดูนังต์ ขณะเดียวกันได้มี 1 ในผู้ชุมนุมส่งสัญลักษณ์กำมือ เพื่อให้ผู้ชุมนุมหยุดบีบแตร เนื่องจากใกล้สถานพยาบาล
17.50 น. : พบว่าเจ้าหน้าที่ คฝ. ยืนเรียงแถวปิดช่งทางที่จะเลี้ยวซ้ายไปถนนราชดำริ ขณะที่มี คฝ.บางส่วนอยู่บนสะพานข้ามแยกศาลาแดง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ชุลมุน เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปยั่วยุ และตำหนิด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอดเวลา
18.00 น. : พบว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและคฟ. ประมาณ 450 นาย ยืนกั้นอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าของสถานทูตเยอรมันประจําประเทศไทย ขณะเดียวกันพบว่าบรรดากลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มที่จะเดินมาถึงบริเวณหน้าสถานทูต เยอรมันแล้วบางส่วน
18.30 น. : นายธัชพงศ์ แกดำ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุม ส่งตัวแทน 3 คน เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูตถึงเจตนารมณ์การมายื่นหนังสือในวันนี้ โดยย้ำจุดยืนถึงเหจุและผลของการชุมนุม
18.45 น. : สถานทูตจะส่งหนังสือข้อเรียกร้องให้ทูตเยอรมันรับทราบต่อไป ซึ่งผู้ชุมนุมได้แจ้งเรื่องความปลอดภัย ทางสถานทูตขอให้ทุกคนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพเพราะทางสถานทูตเยอรมันก็เป็นกังวล
18.50 น. : ประกาศแยกย้ายกันกลับบ้าน หลังยื่นหนังสือให้สถานทูตเยอรมันเป็นที่เรียบร้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง