ข่าว

มาแนวใหม่ใช้ "รถโรงเรียน" ขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนจับก็จับไป คนลักลอบขน "แรงงานต่างด้าว" ผิดกฎหมายก็ทำไป เรียกว่าจับกันทุกวัน ไม่มีหยุด ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้เพิ่มที่ จ.สระแก้ว พบวิธีการใหม่ ใช้โรงเรียนขนคนตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอดถูกจับ 18 ราย

เจ้าหน้าที่สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าประเทศ โดยใช้ "รถนักเรียน"ตบตาเจ้าหน้าที่ มีการถอดเบาะออกและให้ชาวกัมพูชานอนมาเต็มรถ ถูกจับกุมในพื้นที่ อ.โคกสูง จำนวน 2 จุด รวม 15 ราย ผู้นำพาคนไทย 3 ราย เสียค่าใช้จ่าย รายละ 5,000 บาท

 

มาแนวใหม่ใช้ "รถโรงเรียน" ขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ

 

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารประจำกองกำลังชายแดนเข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

 

โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ฉก.ตชด.4 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผบ.ร้อย ตชด.126/ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.4, ร.ต.ท.สมบูรณ์ โพร้งวงษ์ ผบ.มว.ตชด.1261 พร้อมกำลังพล 2 นาย ร่วมกับ ตำรวจ สภ.โคกสูง, ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา ออกลาดตระเวน

 

จับกุม นายสำฤทธิ์ บัวผัน อายุ 47 ปี,นางสาวรัสมี คำสิงห์ อายุ 49 ปี ชาว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว คนไทย กำลังขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาอีก 7 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 3 ราย โดยใช้รถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น HIACE DIESEL COMMUTER สีเทาหมายเลขทะเบียน นข-3462 สระแก้ว ด้านหน้าติดป้าย "รถนักเรียน" จำนวน 1 คัน ถอดเบาะออกและให้แรงงานนอนมาภายในรถเต็มคัน ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ที่ถนนธนะวิถี ช่วงโคกสูง-อรัญประเทศ ม.14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

 

มาแนวใหม่ใช้ "รถโรงเรียน" ขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ

ชาวกัมพูชาทั้งหมด ยอมรับว่าได้เดินเท้าเข้ามาจากประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อมารอขึ้นรถที่กระท่อม นางหนูแดงหรือนัย ภู่รับ บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเสียเงินค่าเดินทางให้กับนายหน้าที่ปลายทางคนละ 5,000 บาท และยอมรับว่า เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจริง

 

มาแนวใหม่ใช้ "รถโรงเรียน" ขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ

ส่วนนายสำฤทธิ์ และนางสาวรัสมี ผู้นำพา ให้การว่าได้รับว่าจ้าง จากนางหนูแดงหรือนัย ภู่รับ ให้ไปรับชาวกัมพูชาที่บริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ให้ไปส่งที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ ในราคาหัวละ 500 บาทต่อคน เพื่อไปทำงานที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

 

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งหากับคนไทยผู้นำพา 2 คน ข้อหากระทำผิดฐาน  ช่วยเหลือด้วยประการใดๆอันตนรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากการจับกุม ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง 7 คน ถูกตั้งข้อหา กระทำผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  และแจ้งผู้ถูกจับที่ 1-9 ถูกแจ้งข้อหา กระทำผิดฐาน  ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการ แพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่ง พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

หลังจากนั้น ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ร่วมกันจับกุม นายวีระ ดวงพร อายุ 40 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ผู้นำพาคนไทย พร้อมรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นพรีรันเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ฒว-4558 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ขณะบรรทุกแรงงานกัมพูชามาด้วย จำนวน 8 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 4 ราย ที่บริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4  ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นกระท่อมของ นางหนูแดง หรือนัย ภู่รับ เช่นกัน ขณะเตรียมขนแรงงานกัมพูชาอีกคันเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยชุดนี้ต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 3,500 บาท นายวีระ สารภาพว่า ถูกจ้างจากนายเชน นายหน้าชาวกัมพูชา ประมาณครั้งละ 10,000 บาท ให้ขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง

มาแนวใหม่ใช้ "รถโรงเรียน" ขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ

ภาพ/ข่าว ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวคมชัดลึก ประจำ จ.สระแก้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ