ข่าว

แก้วสรร ชี้ผลทางกฎหมายของคำพิพากษาศาลรธน. คดี 3 นิ้วเคลื่อนไหวล้มล้าง รธน.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่บทความเรื่อง "ผลทางกฎหมายของคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ คดีสามนิ้วเคลื่อนไหวล้มล้างรัฐธรรมนูญ" ผ่าน www.thaipost.net โดยมีเนื้อหาดังนี้

ฐานคิดของมาตรา ๔๙ แห่งรัฐธรรมนูญ ที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขบวนการสามนิ้วต้องยุติความเคลื่อนไหวล้มล้างสถาบันกษัตริย์นั้น มีที่มาอย่างไร

มาจากบทเรียนของเยอรมันที่เปิดโอกาสให้ฮิตเลอร์ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เคลื่อนไหวสร้างมวลชนปฏิวัติ ขึ้นมาทำลายระบอบรัฐธรรมนูญ กลายเป็นระบอบเผด็จการเต็มตัว พาชาติไปสู่ความล่มจมในที่สุด ดังนั้นจึงต้องสร้างกลไกให้ประชาชนใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญได้

 

ถ้าสามนิ้ว จะเป็นภัยต่อการปกครองโดยรัฐธรรมนูญจริง ต้องปรากฏความเป็น “มวลชนปฏิวัติ” เหมือนฮิตเลอร์เช่นใด

ต้องดูจากเทคนิคการจัดตั้งเป็นสำคัญ ว่า
๑. ต้องหากินกับความเกลียดชัง ปลุกระดมป้ายร้ายว่าสถาบันคือต้นตอที่แท้จริงของความสิ้นหวังในปัจจุบัน

๒. ต้องสื่อสารให้เห็นสถาบันเป็นปีศาจผูกขาดความเลว ที่ต้องจงเกลียดจงชังเผาทำลาย เพราะในแง่เทคนิคสร้างมวลชนนั้น คนธรรมดาจะรวมตัวเป็นมวลลืมตัวตนความคิดอ่านได้ ก็ด้วยความจงเกลียดจงชังร่วมกันเท่านั้น ยิ่งเกลียดก็ยิ่งรวมตัว ยิ่งรวมตัวก็ยิ่งเกลียด เป็นพลวัตไปอย่างนี้ คำพูดที่ว่าจะปฏิรูปจึงเป็นแค่การอำพรางตัวเท่านั้น ใครที่โผล่มาคัดค้านติติงก็ต้องชี้เป็นบริวารปีศาจที่ต้องต่อตีทำลายใส่ร้าย ไม่มีการรับฟังแลกเปลี่ยนความเห็นใด ๆ

๓. ต้องมีการจัดตั้งเคลื่อนไหวเป็นขบวนการ คึกคักต่อเนื่องหยุดไม่ได้ ในระยะแรกต้องปกปิดการจัดตั้งเครือข่าย ต้องไม่โชว์ตัวผู้นำ โดยอ้างว่าไม่มีแกนนำ เป็นความเคลื่อนไหวโดยธรรมชาติ โดยจะไม่ยอมขออนุญาตตามกฎหมายให้ปรากฏตัวผู้รับผิดชอบเลย

ฟังแล้วความเคลื่อนไหวแบบนี้ ครรลองนี้ ไม่ใช่ประชาธิปไตย
ไม่ใช่ เป็นเผด็จการจำแลงซ่อนเข้ามาใช้สิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ต้องหาทางหยุดยั้งขบวนการแบบนี้

 

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สามนิ้วกำลังเติบโตจัดตั้งเคลื่อนไหวเป็นมวลชนปฏิวัติหรือ
ผมอ่านคำวินิจฉัยแล้วเห็น ข้อเท็จจริงและเหตุผลในคำวินิจฉัยเป็นเช่นนั้น นี่คือประเด็นแรกที่แลกเปลี่ยนกันได้ว่า เป็นเช่นที่ผมสังเคราะห์หรือไม่


เมื่อศาลวินิจฉัยให้หยุดความเคลื่อนไหวเช่นนี้ จะมีผลทางกฎหมายเช่นใด
ผมเห็นว่าเป็นการตัดสินว่า ความเคลื่อนไหวของสามนิ้ว อยู่นอกรัฐธรรมนูญ และจะไม่มีความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอีกต่อไป คือชี้ไปเลยว่าขบวนการนี้มีอยู่จริงและเป็นอันตราย เช่น ซ่องโจรทางการเมือง เลย

 

จะเอาติดคุกกันให้หมดหรือ
เป็นการ Out Law เท่านั้น ไม่มีเหตุผล เป็นการสั่งให้ลงโทษอะไร ความเคลื่อนไหวใด เป็นคดีอาญาก็ว่าไปตามกฎหมายอาญาและศาลอาญา แต่ความเคลื่อนไหวนับจากนี้ต่อไปจะอ้างไม่ได้ว่าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอีกแล้ว ตรงนี้ถ้าไม่ยอมหยุดแล้วต้องคดีใหม่อีก เช่น ข้อหาปลุกปั่น ก็จะอ้างต่อไปไม่ได้อีกแล้วว่าตนเคลื่อนไหวตามครรลองรัฐธรรมนูญ เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ไปแล้วว่าพวกนี้อยู่นอกรัฐธรรมนูญ ศาลคดีอาญาจึงต้องถูกผูกพันตามนั้น

 

ใช้กับคดีที่เกิดขึ้นใหม่ เคลื่อนไหวใหม่เท่านั้นหรือ
ถูกต้อง คำพิพากษาศาลต้องมีผลไปในภายหน้า ย้อนหลังไม่ได้

แล้วแค่กฎหมายอาญา กระบวนการทางอาญาจะพอยับยั้งได้หรือ
ตรงนี้เป็นเรื่องของสภาว่า จะสร้างกฎหมายพิเศษจัดการขบวนการสามนิ้วแบบคอมมิวนิสต์หรือไม่ สมัยนั้นเรามีกฎหมายเอาผิด “การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์” เลย เป็นสมาชิกไม่ได้ สนับสนุนไม่ได้ ขังไม่ต้องผ่านศาลก็ได้ จะเอากันอย่างนั้นหรือ ประสาทหรือเปล่า

 

นอกจากคดีอาญาแล้วมีผลอะไรอีก
คำวินิจฉัยนี้ผูกพันส่วนงานที่ใช้อำนาจรัฐทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานเหล่านี้จะปฏิบัติหรือไม่

 

เช่นอะไรบ้าง
ก็มีเยอะอยู่ เช่น
๑. ทุกส่วนราชการจะให้ใช้พื้นที่ชุมนุมไม่ได้ ถ้าไปใช้ถนนก็โดนกีดขวางทางทันที ไม่มีสิทธิอ้างรัฐธรรมนูญ ปีที่แล้วที่ผมและกลุ่มศิษย์เก่าขอไม่ให้สามนิ้วใช้พื้นที่ธรรมศาสตร์ก็เพราะเหตุนี้
๒. บรรดาแกนที่ปกปิดตนเอง แฝงอยู่ในราชการ ก็ให้ออกจากราชการฐานประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตยได้ ถ้าเป็นพรรคการเมือง กกต.ก็เสนอศาลสั่งยุบได้ เป็น ส.ส.ก็เสนอศาลให้พ้น ส.ส.ได้ แต่ต้องเป็นเรื่องภายหลังคำพิพากษา
๓. ปปง.เองก็ตรวจที่มาเงินอุดหนุนได้แล้ว ไม่ต้องกลัวถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งรังแก
๔. กสทช. ก็กำหนดได้แล้วว่าทุกสื่อจะออกหรือรายงานแถลงการณ์ ของขบวนการนี้ไม่ได้

๕. กระทรวงต่างประเทศก็ต้องแจ้งไปยังสถานทูตต่าง ๆ ด้วยว่า เรา Out Law พวกนี้แล้ว ฯลฯ

 

แล้วพวก สส.หรืออาจารย์ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผิดไหม
แค่ไม่เห็นด้วย และไม่ใช่ขบวนการสามนิ้ว ก็วิพากษ์ได้ แต่ด่าศาลไม่ได้ ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีกฎหมายละเมิดอำนาจศาลคุ้มครองแล้ว

 

แล้วตั้งแต่นี้ต่อไปใครจะแตะต้อง ๑๑๒ ไม่ได้เลยใช่ไหม
ยังเสนอแก้ไขปรับปรุงได้ แต่ต้องใช้สิทธิตามครรลอง ไม่ใช่ปลุกให้จงเกลียดจงชังสถาบันเหมือนสามนิ้ว ต้องเข้าใจตรงนี้ให้ได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ขบวนการสามนิ้วเป็นภัยต่อรัฐธรรมนูญแล้ว เลิกไม่รับรองคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพอย่างนี้อีกต่อไปเท่านั้น ไม่ได้ปิดปากห้ามแตะต้องกฎหมายเกี่ยวกับสถาบัน

 

ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าข้อเสนอ ๑๐ ข้อ ของสามนิ้วไม่ถูกต้องไม่ใช่หรือ
มันต้องมีองค์ประกอบอื่นมาสมทบให้เห็นภาพรวมว่า เป็นการล้มล้างด้วยความเกลียดชังและการจัดตั้งด้วย ไม่ใช่แค่ลำพังข้อเสนอเท่านั้น

สรุปแล้วผมว่าคำพิพากษานี้ต้องสื่อสารและใคร่ครวญนำไปปฏิบัติอย่างระมัดระวังสูงสุด อย่าสู้กับเผด็จการจนกลายเป็นเผด็จการเสียเองเป็นอันขาด บ้านเมืองจะยิ่งแตกแยกหนักขึ้น เข้าทางเขาอย่างจังโดยพวกเขาไม่ต้องเหนื่อยเลย

แก้วสรร ชี้ผลทางกฎหมายของคำพิพากษาศาลรธน. คดี 3 นิ้วเคลื่อนไหวล้มล้าง รธน.

logoline