"ตำรวจไซเบอร์" บุกจับชายวัย 33 ปี จากบ้านพัก ในจ.อุบลราชธานี หลังสืบทราบว่าเป็น "แฮกเกอร์" ที่ แฮกเข้าหน้าเว็บศาลรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนเป็นเพลง Death Grips และเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เป็น Kangaroo Court
จากกรณีที่ เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ ถูกถูกแฮกเกอร์ เปลี่ยนหน้าเว็บไซต์เป็นเพลงของ Death Grips และเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เป็น Kangaroo Court นั้น
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ทำการสืบสวนและการตรวจสอบทางเทคนิคพบว่าร่องรอยการโจมตีจากระบบเครือข่ายทางศาลรัฐธรรมนูญ และตรวจพบหมายเลขไอพีของผู้ต้องสงสัย ซึ่งสามารถพิสูจน์ทราบยืนยันตัวตนของผู้ต้องสงสัยพร้อมพิกัดที่อยู่ได้ ประกอบกับ กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ถูกโจมตีจากศาลรัฐธรรมนูญ ไว้ ดำเนินการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัล เพื่อตรวจพิสูจน์วิธีการกระทำความผิดและยืนยันตัวตนผู้บุกรุกและเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 พ.ย.64 ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้ขออนุมัติหมายค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับในช่วงเช้าของวันนี้ (13 พ.ย.64) ได้ประสานงานร่วมกับ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ในการเข้าตรวจบ้านผู้ต้องสงสัย
จากการเข้าตรวจค้น พบตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายวชิระ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี จบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้แฮกเว็บ ศาลรัฐธรรมนูญ จริง จึงได้สอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน พร้อม ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพื่อส่งให้ กลุ่มงานตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัล กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัลต่อไป
ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวชิระ ผู้ต้องหา เข้าไปตรวจค้นภายในห้องนอน พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มีการเปิดค้างอยู่ที่ หน้าเพจของกระทรวงศึกษา โดยทางเจ้าตัวอ้างว่าเป็นการเปิดเข้าไปดูเฉย ๆ ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะบางเว็บพบว่ามีข้อมูลที่สำคัญ ส่วนที่แฮกนั้นมีเพียงเว็บเดียวของศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าทำเพราะสนุก คึกคะนอง ส่วนเพลงที่นำมาใช้เป็นการดึงมาจากยูทูป
นอกจากนี้ตำรวจยังได้ให้ทางผู้ต้องหาแสดงวิธีการแฮกโดยเริ่มจากขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยระบุว่าเจอช่องโหว่ สามารถสั่งการคอมพิวเตอร์ในระยะไกลได้
"ไม่มีสาเหตุจูงใจจากอะไร เห็นแค่ว่าในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่คนให้ความสนใจศาลรัฐธรรมนูญ เท่านั้นไม่เกี่ยวกับการเมือง"
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ตามมาตรา 5, 7 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท และหากผู้กระทำมีการทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ก็จะมีความผิดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,00 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง