
"ราชทัณฑ์" คิกออฟ "เยี่ยมญาติ" วันแรก หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย
"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ลงพื้นที่ จ.น่าน คิกออฟ 12 พ.ย. "เยี่ยมญาติ" ผู้ต้องขังวันแรก ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หลังสถานการณ์ โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย
12 พ.ย.2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยระหว่าง ลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศการเปิด เยี่ยมญาติ วันแรกที่เรือนจำชั่วคราวเขาน้อย อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ว่าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้น ประกอบกับประชาชนและผู้ต้องขังต่างทยอยได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว กรมราชทัณฑ์ จึงได้กำหนดเปิด เยี่ยมญาติ ในวันนี้ (12 พ.ย.64) แต่ยังคงจำกัดให้เฉพาะกลุ่มเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พ้นการระบาด และผู้ต้องขังในเรือนจำได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเท่านั้น
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ได้มีหนังสือสั่งการถึงผู้บัญชาการเรือนจำและผู้อำนวยการทัณฑสถาน ทั่วประเทศเตรียมความพร้อม และปฏิบัติตามมาตรฐาน SOPs อย่างเคร่งครัดเพื่อเปิด เยี่ยมญาติ พร้อมกำชับให้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยสำหรับการเยี่ยมผู้ต้องขัง 5 ด้าน ได้แก่
1. สภาพแวดล้อม ต้องมีจุดคัดกรอง ห้องเยี่ยมต้องปลอดโปร่ง มีระบบระบายอากาศตามมาตรฐาน และเว้นระยะห่าง 2 เมตร
2. ผู้ต้องขัง ต้องมีการตรวจคัดกรอง และต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม รวมทั้งต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
3. ญาติ ต้องมีการจองคิวล่วงหน้า ฉีดวัคซีนครบโดส และสามารถเข้าเยี่ยมได้ครั้งละ 1 คนเท่านั้น โดยระหว่างการเยี่ยมต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
4. เจ้าหน้าที่ห้องเยี่ยม ต้องมีภูมิคุ้มกัน ตรวจไม่พบเชื้อ และ
5. การบริหารจัดการ ต้องจองการเยี่ยมล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์หรือโทรศัพท์ ซื้อของฝากเงินออนไลน์ก่อนเยี่ยม ทำความสะอาดทุกรอบเยี่ยม
ส่วนญาติผู้ต้องขังที่ไม่สะดวกเดินทางมาเยี่ยมด้วยตัวเอง กรมราชทัณฑ์ ยังคงเปิดให้เยี่ยมผ่าน LINE Application ได้ โดยต้องจองคิวเยี่ยมล่วงหน้าเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ญาติยังสามารถฝากเงินให้ผู้ต้องขังผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์ หรือ E-Payment ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ปรับปรุงระบบการฝากเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ญาติในการรับฝากเงินให้ผู้ต้องขัง โดยไม่ต้อง เดินทางมาฝากเงินที่เรือนจำและทัณฑสถาน แต่สามารถนำเงินฝากผ่านช่องทางของธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เช่น เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย, ตู้เอทีเอ็ม หรือระบบออนไลน์ KTB Netbank Mobile Banking
ญาติผู้ต้องขังสามารถยื่นหลักฐานลงทะเบียนที่เรือนจำโดยตรง เพื่อจัดทำบัตรฝากเงินก่อนนำเงินไปฝากให้กับผู้ต้องขังผ่านช่องทางดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีเรือนจำ /ทัณฑสถานที่รองรับการเปิดใช้งาน E-Payment แล้ว จำนวน 70 แห่ง และจะขยายการติดตั้งระบบฯ ให้กับเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศในคราวต่อไป สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการระบบ E-Banking หรือต้องการสอบถามข้อมูลการเปิดเยี่ยมญาติ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เว็บไซต์ กรมราชทัณฑ์ http:/www.correct.go.th