ข่าว

ตรวจหลักฐาน คดีปราศรัยม็อบ"แฮร์รี่ พอตเตอร์" โดนฟ้อง 112

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตรวจหลักฐาน "อานนท์ นำพา" คดีปราศรัยม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 3 ส.ค.63 โดนฟ้อง112 ทนายเตรียมพยานสู้กว่า 90 ลำดับ พิสูจน์สุจริต ไม่กังวลหลังศาล รนธ.ชี้ล้มล้างฯ ยกเคส "กปปส."เทียบศาล รธน.เคยคุ้มครองเเต่ติดคุกกันระนาว

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.1629/2564 ที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำราษฎร ในข้อหาหมิ่นประมาทสถาบันฯ ตามมาตรา 112, ยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ จาก กรณีร่วมปราศรัยในการชุมนุม “เสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย” หรือม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 

 

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความประจำศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาศาลพร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันนัดพิจารณานัดตรวจพยานหลักฐานในเหตุการณ์ชุมนุม"แฮร์รี่ พอตเตอร์" ซึ่งนายอานนท์ได้ขึ้นปราศรัยเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งฝ่ายโจทก์ได้ยื่นบัญชีพยานมาแล้ว ฝ่ายจำเลยหรือตนเองได้เตรียมพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุทั้งหมด 90 ลำดับ เพื่อนำมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่นายอานนท์ได้ปราศรัยในวันนั้นเป็นไปโดยสุจริตและมีข้อเท็จจริงรองรับ ไม่ได้มีเนื้อหาที่เป็นการดูหมิ่น "หมิ่นประมาท" หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันฯแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่าหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า การจัดชุมนุมของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เสนอปฏิรูปสถาบัน เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง ทนายได้มีการพูดคุยกับนายอานนท์หรือไม่ นายนรเศรษฐ์ ตอบว่า ได้พูดคุยเพราะตนเป็นทนายความจึงได้เข้าไปเยี่ยมหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว

 

แต่ตนขอเรียนอย่างนี้ว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคท้ายระบุไว้ว่าการดำเนินการไม่กระทบกระเทือนต่อการดำเนินคดีอาญานั่น หมายความว่าการพิจารณาคดีอาญาก็จำเป็นต้องพิจารณาตามองค์ประกอบในทางอาญาที่ทางกฎหมายกำหนดไว้ ไม่ใช่ว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วจำเลยในคดีอาญาจะผิดเลยหรือถูก

 

ตนขอยกตัวอย่างกรณีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าเป็นการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่ต่อมาเมื่อมีการดำเนินคดีอาญาก็มีแกนนำหลายคนที่ถูกพิพากษาลงโทษเหมือนกัน ดังนั้นแล้วความผิดในทางอาญากับความผิดที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต้องแยกออกจากกัน จะมีแค่บางส่วนที่นำมาเป็นพยานหลักฐานได้ 

เมื่อถามว่ามีความกังวลกับการดำเนินคดีในวันนี้หรือไม่ นายนรเศรษฐ์ ตอบว่า ในคดีนี้ตนไม่มีความกังวลเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้วินิจฉัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ของวันที่ 3 ส.ค.63 แต่เป็นการวินิจฉัยในเหตุการณ์ของวันที่ 10 ส.ค.63 ดังนั้นจึงเป็นคนละเหตุการณ์อยู่แล้ว และนายอานนท์ก็พร้อมที่จะต่อสู้คดี

 

แต่ทั้งนี้นายอานนท์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้ว เวลาที่ตนซึ่งเป็นทนายไปปรึกษาหารือ ส่งเอกสาร และไม่สามารถเอาคลิปวีดีโอต่างๆไปปรึกษาแนวทางการสู้คดีกับนายอานนท์ได้ทำให้การต่อสู้ของนายอานนท์ในคดีนี้เป็นไปได้ด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะจำเลยถูกขังอยู่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ