ข่าว

"บิ๊กป้อม" เชื่อการเมืองไม่รุนแรงหลังศาล รธน.ชี้คดีล้มล้างการปกครองฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กป้อม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เชื่อการเมืองจากนี้ไม่รุนแรงหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการชุมนุมเสนอปฏิรูปสถาบัน ฯเข้าข่ายล้มการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข

"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมหลังจาก ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าการจัดชุมนุมปฏิรูปสถาบัน เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยบอกว่าเป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องดูต่อไปและต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าการเมืองหลังจากนี้จะไม่มีความรุนแรง ส่วนที่มองว่าจะมีความรุนแรงเป็นเพราะสื่อประเมินกันไปเองเพราะเมื่อศาลวินิจฉัยมาแล้วก็จบแล้ว 

 

เมื่อถามย้ำว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้นหรือไม่  "พล.อ.ประวิตร" บอกว่า การทำงานเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ และตนเองในฐานะฝ่ายความมั่นคงก็ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลาในทุกเรื่อง 

 

ส่วนที่พรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนเรื่องการประกันตัวและเคลื่อนไหวทางสื่อสังคมออนไลน์ "พล.อ.ประวิตร" กล่าวว่า ก็ดูอยู่ตลอด ฝ่ายความมั่นคงดูทุกเรื่อง ไม่ว่าออนไลน์หรืออะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ 

ทั้งนี้เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.)ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัย โดยมีการถ่ายทอดเนื้อหาคำปราศรัย 3แกนนำราษฎรที่เวทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 อย่างละเอียด  โดยเฉพาะประเด็นที่แกนนำราษฎรเสนอให้มีการยกเลิกมาตรา 112 ทั้งนี้ศาลรธน.ชี้ด้วยว่า การเสนอให้ยกเลิกแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ย่อมกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ 

 

การกระทำของ นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก(ไมค์) น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง) ผู้ถูกร้อง เป็นการชุมนุมปราศรัยเพื่อเสนอข้อเรียกร้องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง 

 

การกระทำผู้ถูกร้องเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง มีการกระทำเป็นขบวนการ บ่อนเซาะทำลายระบอบปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

 

การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสาม เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสามและกลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการต่อไปด้วย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ