ข่าว

ศาลฯสอบคำให้การ ”ธนิกานต์” คดีเสียบบัตรแทนกัน- เจ้าตัวพร้อมพิสูจน์ตัวเอง

11 พ.ย. 2564

ศาลฎีกาสอบคำให้การ ส.ส. พลังประชารัฐ ”ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ” ปมฝ่าฝืนมาตราฐานจริยธรรมร้ายแรงเสียบบัตรแทนกัน เจ้าตัวแจงระบบการลงคะแนนมีปัญหา ยันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝากบัตร -ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้จำหน่ายคดีนี้ชั่วคราวเพื่อรอการพิจารณาของศาลฎีกานักการเมือง

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 64 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง องค์คณะศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรกสอบคำให้การในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.)ยื่นร้อง "น.ส.ธณิกานต์  พรพงษาโรจน์" ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ  เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พ.ศ...

 

โดยพฤติกรรมดังกล่าวถือว่า ฝ่าฝืนและไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 6-8,11,17 และ 27  ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องเมื่อเดือน ส.ค. มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่และนัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้องในวันนี้เวลา 9.30 น.   

 

วันนี้ "น.ส.ธณิกานต์" เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ "น.ส.ธณิกานต์" เผยว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 62 เป็นช่วงที่มีการลงคะแนนและบรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหล มีการประท้วงเรื่องระบบการลงคะแนนมีปัญหาตลอดครึ่งเช้าและต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอกทันที ตั้งใจทำงานมาตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะฝากบัตร ตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ 2 ปีที่แล้ว น่าจะกังวลเพราะเครื่องมีปัญหา พร้อมพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมหลังไม่ได้ชี้แจงในชั้นการพิจารณาของ ป.ป.ช.  

 

ทั้งนี้ "น.ส.ธณิกานต์" ยอมรับว่าหลังศาลให้หยุดปฎิบัติหน้าที่เสียโอกาสในการพิจารณากฎหมาย ในฐานะผู้แทนประชาชน แต่ก็ยังลงพื้นที่ช่วยประชาชน หลังประสบปัญหาโควิดและน้ำท่วม

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายมาศาลโดยกรณีดังกล่าวยังเป็นคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำ อม.19/2564ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งพฤติการณ์คดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีที่ ป.ป.ช.ร้องต่อศาลฎีกาในคดีนี้

 

ซึ่ง "น.ส.ธนิกานต์"  แถลงว่า จะนำคำเบิกความของสำนวนคดีในศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาเป็นถ้อยคำพยานในคดีนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเบิกความซ้ำซ้อนกันแต่ขอให้มีการไต่สวนพยานปากเดิมเพิ่มเติมในประเด็นอื่นหรือพยานใหม่ และขอให้จำหน่ายคดีนี้ชั่วคราวเพื่อรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.ก็ไม่คัดค้านที่จะนำคำเบิกความมาเป็นถ้อยคำในคดีนี้เช่นกัน แต่ประสงค์ให้ไต่สวนต่อโดยไม่รอผลการพิจารณาของศาลฎีกาฯ นักการเมือง

 

องค์คณะผู้พิพากษา พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพยานสองคดีเป็นชุดเดียวกัน   และนำสืบในข้อเท็จจริงเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ให้นำบันทึกถ้อยคำของคดี อม.19/2564 มารวมเป็นถ้อยคำของคู่ความทั้งสองฝ่ายในคดีนี้   และอนุญาตให้ไต่สวนพยานปากเดิมในข้อเท็จจริงที่ไม่ซ้ำกัน  โดยไม่จำเป็นต้องจำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราวโดยศาลนัดพร้อมในวันที่ 26 เม.ย. 2565 เวลา 9.30

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้( 12 พ.ย.) ศาลฎีกา สนามหลวง นัดพิจารณาคดีครั้งแรกสอบคำให้การ คดีหมายเลขดำ  คมจ.3/2564 ที่ ป.ป.ช. ยื่นร้องนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฏ์ คงมี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย   ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงฯ กรณีเสียบบัตรแทนกันในสภา