ข่าว

จับ"หนุ่มแสบ" หลอกขายอุปกรณ์"บิ๊กไบค์" มูลค่าความเสียหาย 6 ล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสืบสวนนครบาล บุกจับ"หนุ่มแสบ"วัย 29 ปี โพสต์ข้อความหลอกขายอุปกรณ์ตกแต่งรถ"บิ๊กไบค์" รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท เบื้องต้นรับสารภาพนำเงินไปซื้อยาเสพติดเสพ

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 10 พ.ย.64 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษฯ และ พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 5 จับกุมตัวนายภานุพงศ์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 558/2564 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านเลขที่ 57 หมู่ 1 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

สืบเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมสร้างและใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชีต่างๆ หลายบัญชี ก่อนทำการโพสต์ขายสินค้าประเภทถุงมือ เสื้อการ์ด เสื้อผ้า กระเป๋ายี่ห้อ TRIUMPH ในเพจกลุ่มคนขับรถมอเตอร์ไซด์ยี่ห้อ TRIUMPH แทบทุกกลุ่ม ตลอดจนกลุ่มขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ โดยทำมาตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2559 จนถึงปัจจุบัน จนมีชื่อติดอยู่ในแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกงต่างๆ มากมาย


 
จากการตรวจสอบผู้ต้องหาจะใช้วิธการคัดลอกสินค้าของผู้ขายอื่น ที่มีการประกาศโพสต์ขายในกลุ่ม นำไปโพสต์ขายในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ เมื่อมีผู้เสียหายสนใจสั่งซื้อ ผู้ต้องหาก็ทำทีแนะนำสินค้า จนผู้เสียหายหลงเชื่อตกลงสั่งซื้อสินค้า หลังจากนั้นก็จะทำทีเป็นขอที่อยู่จัดส่งไว้ เพื่อให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าผู้ต้องหาจะส่งของที่สั่งให้แน่นอน ก่อนที่จะให้เลขที่บัญชีธนาคารของตน หรือบัญชีธนาคารของผู้อื่น เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินตามราคาค่าสินค้าให้ พร้อมกับบอกผู้เสียหายว่า เมื่อทำการโอนเงินค้าสินค้าเรียบร้อยแล้วให้ผู้เสียหายส่งสลิปหลักฐานการโอนเงินแจ้งให้คนร้ายทราบด้วย

เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินและส่งสลิปหลักฐานการโอนเงินให้คนร้ายเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาก็จะทำทีนิ่งเฉย และบล็อกการสนทนาของผู้เสียหายไป เมื่อมีการทวงถามหรือด่าว่าจากผู้เสียหาย จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยที่ผ่านมาผู้ต้องหามีรายได้จากการก่อเหตุเฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 บาท รวมรายได้ที่ทำมาตั้งแต่ประมาณปี 2559 กว่า 6 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายรับสารภาพว่าเงินได้มาจากการก่อเหตุส่วนใหญ่หมดไปกับการนำมาซื้อยาเสพติดมาเสพ รวมทั้งนำไปเล่นเสียการพนันออนไลน์ เบื้องต้น นำส่ง พงส.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ