ศุกร์นี้รู้ผลสอบ "สว.จร." ทองหล่อ "นำขบวนVIP" ยืนยันไม่มีการช่วยกันแน่นอน

10 พ.ย.2564  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ตำรวจสารวัตรจราจรสน.ทางหล่อ นำขบวนรถวีไอพี ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)  ได้ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ตรวจสอบข้อเท็จจริง  และได้ให้ตำรวจนายดังกล่าวมาประจำที่ ศปก.บก.น.5  โดย สน.ทองหล่อ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว และเพื่อความรอบคอบทาง บก.น.5 ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ สน.ทองหล่อ ดำเนินการสอบพยานเพิ่มเติมตามข้อสั่งการของบก.น.5 ทั้งการสอบพยานเพิ่มเติม รวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 

ทั้งนี้คนขับรถเบนซ์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ส่วนของ นพ.บุญ วนาสิน  ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด อยู่ระหว่างการประสานเรื่องการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งมีกำหนดกรอบให้รายงานผลภายในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน นี้

เมื่อถามว่ากรณีคนขับรถเบนซ์ทำผิดกฎหมายจราจรคือขับรถย้อนศรได้หรือไม่ ทางพล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ในกรณีของการแซงรถ เนื่องจากเป็นการเดินรถสวนทางกัน (Two way) แต่ละฝั่งจะมีช่องทางเดียว โดยปกติของการแซงรถจะมีความจำเป็นต้องไปอีกหนึ่งช่องทาง แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาก่อนว่าในวันเกิดเหตุ ในกรณีที่ รถนำขบวนวีไอพี และในส่วนของเจ้าพนักงานจราจรท้องที่คือ สน.มักกะสัน ซึ่งได้รับการประสานจาก สน.ทองหล่อ  ว่ามีปัญหาการจราจร เพราะฉะนั้นในส่วนของเจ้าพนักงานจราจรของสน.มักกะสัน จะไปแก้ไขปัญหาคือจะเข้าไปจัดระบบให้เดินรถทางเดียว (One way) เพื่อที่จะไปกันรถจึงมีความจำเป็นที่จะแซงรถขึ้นไปติดตั้งเครื่องหมายจราจรบริเวณปากซอย เพื่อห้ามรถเข้ามาและจัดเป็นระบบวันเวย์ในการแก้ไขปัญหาการจราจร 

ทั้งนี้ ถนนกำแพงเพชร 7 ปกติเป็นการเดินรถวิ่งสวนทางกัน (TWO WAY) คือเข้าหนึ่งช่องทางออกหนึ่งช่องทาง แต่ในช่วงเวลา 06.30 - 09.30 น.จะจัดให้มีการเดินรถทางเดียว เพื่อแก้ไขการจราจรที่ติดขัดในช่วงเช้า ทั้งนี้ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เจ้าพนักงานเห็นว่ารถน้อยจึงไม่ได้จัดให้เดินรถทางเดียว ซึ่งในวันเกิดเหตุทางเจ้าพนักงานจราจรไม่ได้จัดเครื่องหมายจราจรในการห้ามรถที่บริเวณปากซอยเข้าไปถนนกำแพงเพชร 7

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ถ้าทางวินัยเกี่ยวข้องกับตำรวจโดยตรง ส่วนทางอาญาเกี่ยวข้องกับประชาชน จะเป็นความผิดตามพ.ร.บ.จราจร ที่ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเราดูในเรื่องการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ว่าทำผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งทาง พล.ต.ต.จิรสันต์ ได้ยืนยันแล้วว่าในวันศุกร์นี้ข้อมูลต่างๆ จะต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าผลออกมาไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน