เปิดประวัติ "ไอ้เหลิม" หนี "หมายจับ" 7 คดี ปล้นจี้ ข่มขืน สุดท้ายถูกวิสามัญดับ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดนนทบุรี ได้เข้าจับกุมนายเฉลิม บัวอ่อน หรือ เหลิม หรือ ปาน "ไอ้เหลิม" อายุ 46 ปี คนร้ายตามหมายจับในคดีจี้ชิงทรัพย์ ข่มขืน และรุมโทรมเหยื่อสาว ภายในหอพัก ย่านถนนราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยขณะเข้าจับกุม คนร้ายเกิดไหวตัวทัน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  "หมายจับ"

 

ทั้งนี้ ระหว่างเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม  จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว โดยกระสุนถูกคนร้าย "ไอ้เหลิม" ที่บริเวณหน้าอก จำนวน 2 นัด ทำให้นายเฉลิม หรือ เหลิม "ไอ้เหลิม" เสียชีวิตภายในห้องพัก  อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการวิสามัญคนร้ายที่ก่อคดีโชกโชนรายนี้แล้ว  พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ "หมายจับ" 

  

 

ทางด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ระบุว่า  ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วสันต์ นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมนายเฉลิม เพราะที่ผ่านมา คนร้ายได้ก่อเหตุมาหลายคดี และมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ภายในร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ซอยรังสิต - นครนายก 16 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยคนร้าย "ไอ้เหลิม" บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนจี้ น.ส.รุ่งภัทสร อินต๊ะไซย อายุ 28 ปี ขณะนำผ้ามาซักพร้อมกับแฟนสาว และลงมือก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ และใช้อาวุธปืนจ่อศรีษะของเหยื่อ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ จังหวัดปทุมธานี "หมายจับ" 

 

ขณะที่ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 กล่าวย้ำว่า หลังจากชุดสืบสวน ได้ติดตามตัวคนร้าย มานานกว่า 10 วัน จนกระทั่งทราบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหอพักดังกล่าว จึงได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม จนทราบแน่ชัดว่า ผู้ต้องหาได้หลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักแห่งนี้ โดยมีการอำพรางให้เพื่อนบ้านคล้องกุญแจห้องจากด้านนอกเอาไว้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้องพัก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการเคาะประตูเรียก เพื่อขอเข้าตรวจค้น นายเฉลิม "ไอ้เหลิม" กลับไม่ยิมยอมให้เข้าไปภายในห้อง "หมายจับ" 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้พยายามพังประตูเข้า ไปแต่นายเฉลิม ได้ดันประตูเอาไว้ จนกระทั่งตำรวจได้พังประตูจนทำให้นายเฉลิม ลงล้มกับพื้น พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดยตำรวจได้ยิงสวนคนร้ายออกไป 2 นัด กระสุนเข้าที่หน้าอกทั้ง 2 นัด  ทำให้คนร้ายเสียชีวิต "หมายจับ" 

 

พล.ต.ต.วสันต์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายเฉลิม "ไอ้เหลิม" พบว่า เคยก่อคดีชิงทรัพย์ และข่มขืนต่อเนื่องมาแล้วหลายท้องที่  ซึ่งมี "หมายจับ" ไม่ต่ำกว่า 7 คดี ทั้งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี  3 คดี ,  พื้นที่ จ.นนทบุรี  2 คดี ,  พื้นที่ จ.นครราชสีมา 1 คดี และในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร  (สน.ทุ่งสองห้อง) อีก 1 คดี และยังมีอีกหลายคดีที่อยู่ในระหว่างติดตามผู้เสียหาย มาชี้ภาพคนร้าย รวมทั้งยังเคยก่อเหตุแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จนได้รับบาดเจ็บขณะเข้าจับกุมตัวอีกด้วย โดยนายเฉลิม ได้ถูกจับกุมดำเนินคดีเมื่อปี 2552 ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้ก่อเหตุเรื่อยมา 

 

สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ "ไอ้เหลิม" ถือว่า อุกฉกรรย์มาก เพราะแต่ละครั้งที่ลงมือ มักจะใช้รถจยย. ขับตระเวนหาเหยื่อในที่เปลี่ยว โดยจะขี่รถจยย. เข้าประกบ และใช้เท้าถีบรถจยย.ของเหยื่อจนล้ม และลงมือชิงทรัพย์ ซึ่งหากพบว่าเหยื่อ หรือหญิงสาวรายใดหน้าตาดี ก็จะลงมือข่มขืนด้วย "หมายจับ"

 

 

"คนร้ายรายนี้ "ไอ้เหลิม" ก่อคดีไม่ต่ำกว่า 7 คดี เท่าที่พิสูจน์ทราบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นคดีใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ข่มขืน และคดีรุมโทรมเหยื่อด้วย ซึ่งทั้ง 7 คดี ในแต่ละพื้นที่นั้น จะลงมือก่อเหตุไม่เหมือนกัน อย่างบางพื้นที่เมื่อลงมือจี้ชิงทรัพย์เหยื่อแล้ว ก็ยังลงมือข่มขื่นเจ้าทุกข์ด้วย หรือบางพื้นที่ก็จะใช้อาวุธปืน จี้ชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว ซึ่งคนร้ายรายนี้ถือว่าโชกโชนมาก และเป็นภัยต่อสังคม โดยเฉพาะเหยื่อที่เป็นหญิงสาว" พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 กล่าว "หมายจับ" "ไอ้เหลิม" 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีที่นายเฉลิม ก่อเหตุเอาไว้ในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มีด้วยกัน 4 คดี คดีที่ 1 วันที่ 21 ม.ค.2552 เวลาประมาณ15.30น. คนร้าย 2 คนใช้อาวธุ มีดบังคับผู้เสียหายขณะ ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แล้วพาไป ข่มขืนกระทำชำเรา บริเวณป่าละเมาะข้างถนน ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว โดยเจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ อาทิ เส้นขนในบริเวณที่เกิดเหตุ , คราบอสุจิ จากกางเกงช้ันในของผู้เสียหาย

 

คดีที่ 2 วันที่ 29 ม.ค.2552 เวลาประมาณ15.30น. คนร้าย 4 คนใช้อาวธุ ปืนปากกาและเครื่องช๊อตไฟฟ้า บังคับผู้เสียหายจากพื้นที่ สภ.คูบางหลวง ไปข่มขืนกระทำชำเรา บริเวณป่าละเมาะข้างถนน (จุดเดียวกันกับคดีที่ 1) ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว

คดีที่ 3 วันที่1ก.พ.2552 เวลาประมาณ 06.30 น. คนร้าย 2 คนใช้อาวธุมี ดและเครื่องช็อตไฟฟ้าบังคับผู้เสียหายจากพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด ไปข่มขืนกระทำชำเรา บริเวณบ้านร้าง ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว

และคดีที่ 4 วันที่3ก.พ.2552เวลาประมาณ 22.00น. คนร้าย 2 คนใช้อาวธุมีดบังคับผู้เสียหาย ขณะนั่งคุยกับเพื่อนที่บริเวณ ต.ระแหง ไปข่มขืนกระทำชำเรา บริเวณป่าละเมาะ (จุดใกล้เคียงกับคดีที่ 3) พร้อมชิงทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหายไปด้วย ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว
 

ต่อมาศาลได้อนุมัติ "หมายจับ"  นายเฉลิม ผู้ต้องหา ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราจำนวน 3 คดี
 1. หมายจับศาลจังหวดั ปทุมธานี ที่ จ.54/2552 ลง 2 ก.พ. 52
2. หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 72/2552 ลง 6 ก.พ. 52
3. หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.51/2552 ลง 5 ก.พ. 52
4. คดีที่ 2 ผู้เสียหายยืนยันว่า เป็นคนร้ายในคดีนี้ อยู่ระหว่าง ขออนุมัติออกหมายจับ ซึ่งผู้เสียหายท้ัง 4 คดี ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุขืนขืนท้ัง 4 คดี

นอกจากนี้ นายเฉลิม ยังมี "หมายจับ" จากศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 94/2542 ลง 26 มี.ค.42 ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธฯ สภ.ปากเกร็ด และหมายจับจากศาลจังหวัดนครราชสีมาที่ 380/2546 ลง20ก.พ.46 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา สภ.ปักธงชัย รวมทั้งคดีในพื้นที่กรุงเทพฯ อีก 1 คดี รวมทั้งหมดที่นายเฉลิม ก่อเหตุไว้ทั้งสิ้น 7 คดี