ข่าว

"ปลัดยุติธรรม" เผย เรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาด "โควิด-19" แล้ว14 แห่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปลัดกระทรวงยุติธรรม เผย สถานการณ์โควิด-19 "กรมราชทัณฑ์" มีเรือนจำที่อยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดแล้ว 14 แห่ง ซึ่งจะเริ่มทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.นี้

8 พ.ย.2564   ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกล เพื่อติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 78/2564 

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ ยังคงไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จึงมีจำนวนเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 124 แห่ง และเรือนจำสีแดง 18 แห่งคงเดิม โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาดเพียง 4 แห่ง (ระบาดใหม่ 3 แห่ง และระบาดซ้ำ 1 แห่ง) ขณะที่มีเรือนจำที่สามารถลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT แล้วทั้งสิ้น 14 แห่ง ซึ่งจะเริ่มทยอยพ้นจากการระบาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนเป็นต้นไป 

 

ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 711 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 679 ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 32 ราย) รักษาหายเพิ่ม 105 ราย เสียชีวิต 3 ราย (จากเรือนจำกลางยะลา) ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,618 ราย (กลุ่มสีเขียว 87.8% สีเหลือง 11.9% และสีแดง 0.3%) โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 70,377 ราย หรือ 90% ของผู้ติดเชื้อสะสม 78,147 ราย เสียชีวิตสะสม 173 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
 

 

ในที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม ได้ติดตามสถานการณ์ของเรือนจำที่พบการระบาดแต่ละแห่ง โดยพบว่า สถานการณ์ของเรือนจำส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงมีการดำเนินการเพื่อป้องกัน ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ พร้อมจัดทำแผนสิ้นสุดการระบาดโรคเพื่อให้เรือนจำสามารถกลับมาปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามแผนการควบคุมและป้องกันการระบาดของเรือนจำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแยกกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่ หากเป็นไปได้ให้หาพื้นที่บริเวณภายนอกเรือนจำ หรือเรือนจำชั่วคราวในการแยกกักโรค และแยกผู้ปฏิบัติงานระหว่างแดนกักโรคและแดนในออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการปนเปื้อนหรือแพร่เชื้อไปมาระหว่างกันได้

 

สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้วทั้งสิ้น 408,058 โดส แบ่งเป็นการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง เข็มที่ 1 จำนวน 246,018 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 162,040 ราย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายเพื่อเข้าฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเพิ่มเติม จนครอบคลุมทุกรายในที่สุด

 

ส่วนสถานการณ์การระบาดของโควิด-19  ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ติดเชื้อและอยู่ระหว่างการรักษาตัว จำนวน 10 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 8 ราย และเยาวชน 2 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 49 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 7 แห่ง แยกเป็นติดเชื้อ 4 แห่ง และหมดสถานะสีขาว 3 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1,989 ราย หรือคิดเป็น 50.55% จากทั้งหมด 3,935 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 3,869 ราย หรือคิดเป็น 91.86% จากทั้งหมด 4,212 ราย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ