ข่าว

พลเมืองไทย ส่ง "สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์" ลงสนามเลือกตั้ง แม่สาย-เชียงแสน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พรรคการเมืองเล็กยังสู้ พลเมืองไทย จัดประชุมใหญ่ เผย เตรียมส่ง "เสี่ยติ่ง สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์" ลงสู้สนามเลือกตั้ง แม่สาย-เชียงแสน

นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคพลเมืองไทยเปิดเผยว่า วานนี้(7 พ.ย.)พรรคพลเมืองไทยได้จัดการประชุมใหญ่ประจำปีที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีสมาชิกมาจากหลายพื้นที่พร้อมกรรมการบริหารและตัวแทนสาขาพรรค เข้าร่วมประชุมร่วมประมาณ 300 คน ที่ประชุมได้รับรองงบการเงินและเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด 

 

นางสาวศิลัมพา กล่าวต่อว่า สมาชิกได้ขอให้กรรมการบริหารพรรคส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ทุกเขตในจังหวัดเชียงรายและมีสมาชิกระดับผู้นำหลายภาคส่วนของอำเภอแม่สายและอำเภอเชียงแสน ขอให้ "นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์" หัวหน้าพรรค ซึ่งเคยเป็น ส.ส.ในพื้นที่นี้มาหลายสมัย กลับมาลงเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตนี้อีกครั้งหนึ่ง 

 

โดย "นายสัมพันธ์" กล่าวว่า หากเป็นความต้องการของเพื่อนสมาชิกและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตนยินดีรับไว้พิจารณาที่จะลงเลือกตั้งที่อำเภอแม่สายและเชียงแสนต่อไป 

 

 

 

สำหรับ "สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์" เป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร ,อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 7 สมัย

 

"สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์" ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2529 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งในปี พ.ศ. 2531 เขาได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาชน

 

ต่อมาในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย ในสังกัดพรรคสามัคคีธรรม และในการเลือกตั้งเดือนกันยายนของปีเดียวกันได้รับเลือกตั้งในนามพรรคชาติไทย


แต่ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2538 เขาสอบตก กระทั่งได้รับเลือกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2539 สังกัดพรรคความหวังใหม่ และจากนั้นเขาได้ลาออกเพื่อย้ายไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาและได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ (เลื่อนแทน) จากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 


ในการเลือกตั้งครั้งถัดมา พ.ศ. 2548 เขาได้รับเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทย (เลื่อนแทนจากบัญชีรายชื่อ)และ พ.ศ. 2549 ได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อกับพรรคไทยรักไทยอีกครั้ง ซึ่งต่อมาการเลือกตั้งเป็นโมฆะ


ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 เขาได้รับเลือกตั้งจากระบบสัดส่วน เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและเป็นประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทยคนแรกของสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาเขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี พร้อมกับกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน จำนวน 109 คน หลังจากนั้นเขาได้เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

 

ในปี พ.ศ. 2561 เขาได้ร่วมกับนักการเมืองหลายคนในการสนับสนุนการจัดตั้งพรรคการเมืองใช้ชื่อพรรคพลเมืองไทย โดยเขารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก

logoline