รวบแล้ว พ่อใจยักษ์ จับลูกสาว วัย3ขวบ "ไลฟ์สด" คล้องเชือก ประชดเมียทิ้ง | คมชัดลึก

วันที่ 8  พฤศจิกายน  เหตุการณ์ระทึกกลางดึกที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง ได้ "ไลฟ์สด" ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยในภาพคลิปวีดีโอ.ดังกล่าว เป็นภาพของเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ ถูกชายซึ่งทราบต่อมาคือ นายนิรันด์ (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 30-35 ปี เป็นพนักงานขับรถส่งสินค้าของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง  ขณะกำลังอุ้มเด็กผู้หญิงวัย 3 ขวบ  ไลฟ์สด  

 

 

ทั้งนี้ จากการสังเกตุเห็นว่า ช่วงบริเวณลำคอของเด็กผู้หญิงมีเชือกคล้องอยู่  โดยเด็กหญิงรายนี้ส่งเสียงร้องว่า หนูกำลังหายใจไม่ออกแล้ว หนูกลัว พร้อมเอ่ยปากพูดคำดังกล่าวอยู่หลายครั้ง โดยในช่วงที่เผยแพร่ภาพคลิปวีดีโอ.เหตุการณ์ เป็นช่วงเวลา 14.23 น. ของวันที่ 7 พ.ย.  ก่อนที่โลกโซเชียลจะแชร์ภาพดังกล่าวออกไป พร้อมกับวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยพยายามตรวจสอบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณสถานที่แห่งใด และหนูน้อยวัย 3 ขวบ ยังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ 

 

กระทั่งเวลา 22.30 น. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนของ สน.บางมด และอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ได้ไปตามแกะรอย จนพบบ้านหลังที่เกิดเหตุ อยู่ภายในซอยชุมชนป้าแดง บ้านเลขที่ 22/1 ถนน พระรามที่ 2 เเขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร  ลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า เหตุเกิดบริเวณชั้นล่างสุดของตัวบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขออนุญาตเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เข้าไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุด้านใน

 

เมื่อเข้าไปตรวจสอบด้านในของห้อง พบที่นอนหมอนมุ้งที่ปูเอาไว้อย่างดี นอกจากนี้ยังพบหนังสือเรียน ชั้นเตรียมอนุบาล  รวมถึงเสื้อผ้าและ อุปกรณ์การเลี้ยงเด็กยังวางอยู่บนพื้นห้อง ถัดมาจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณห้องอาบน้ำ พบกับม้วนเชือกถักสีดำ ซึ่งเป็นเชือกที่ใช้ก่อเหตุอยู่ตรงบริเวณพื้น 1 ม้วน และอ่างใส่น้ำที่สำหรับไว้ใช้อาบน้ำเด็ก1ใบ ภายในอ่างน้ำพบว่ามีน้ำอยู่เต็มอ่าง และยังพบของเล่นเด็กเป็นจระเข้ยาง 1 ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบภาพที่ปรากฎในคลิป พบว่า สภาพด้านหลังนั้นตรงกันกับสภาพภายในห้องที่พบ ส่วนบริเวณหน้าห้องพบกับตุ๊กตาหมี ในลักษณะแขวนไว้กับฝาผนังห้องอยู่ 2 ตัว แต่ไม่พบตัวเด็กกับผู้ก่อเหตุ คาดว่าน่าจะพาเด็กหลบหนีออกไปแล้ว

 

 

จากการสอบถาม น.ส.อารี (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง ทราบว่า ที่ผ่านมามักเห็นสองพ่อลูก ออกมาซื้อของกิน และซื้อน้ำแข็งอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนตัวแล้ว ก็มองว่าพ่อรักลูกสาวคนนี้มาก ส่วนปัญหาเรื่องส่วนตัวไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว 
 

 

ขณะที่ทางด้านญาติๆของชายในภาพ เปิดเผยว่า พ่อเด็กเป็นหลานเขย และพักอยู่ด้วยกัน 3 คน มีพ่อแม่และลูกสาว เห็นมาตั้งแต่ทั้งสองคนยังไม่มีลูกด้วยกัน โดยทั้งสองคนทะเลาะมีปากเสียงกันเป็นประจำ ทำให้ภรรยาหนีไปอยู่บ้านแม่ของตัวเอง  

 

เรื่องที่เกิดน่าจะทำเพื่อประชดเมียเพราะช่วงเย็นตอนเวลา ประมาณ 6 โมงเย็น เห็นเด็กเดินอยู่กับพ่อเขา และบอกว่าจะกลับไปบ้านที่สุรินทร์ น่าจะไปกับเพื่อนของเขา เพราะเข้ามาหาที่บ้าน ช่วงเกิดเหตุพ่อเด็ก ได้ส่งภาพไปให้ญาติอีกคนดู ฉันรู้เรื่องจึงรีบกลับมาที่บ้าน ได้ยินเสียงหลานร้อง จึงตะโกนให้คนปีนเข้าไปดู พ่อเด็กก็ตะโกนออกมาว่าไม่เป็นอะไร  จึงไม่ได้เข้ายุ่ง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเข้าไปดูในห้อง เคยเกิดแบบนี้มาแล้ว ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 3 สงสารหลาน เวลาหลานมาเล่นที่บ้าน ก็มักจะบอกกับตนเองว่า ไม่อยากจะอยู่กับพ่อ

 

ทั้งนี้ ญาติยังได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้รีบเข้ามาช่วยเหลือหลานสาวด้วย เพราะสงสารเด็กที่ต้องถูกบังคับขู่เข็ญ และถูกทำร้าย เนื่องจากเกรงว่า หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ วันหนึ่งอาจจะทำให้หลานเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ 

 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด รวมทั้งได้เก็บหลักฐานหลายรายการไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริง  และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมพ่อรายนี้เอาไว้ได้แล้ว ขณะเดินทางไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งนำตัวกลับมาสอบสวนขยายผลที่ สน.บางมด พร้อมกับเสนอศาล ขออนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้ต่อไป

 

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบ เฟซบุ๊กของนายนิรันด์ พบว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุนายนิรันด์ ได้โพสต์คลิปภาพครอบครัว ที่ประกอบไปด้วย นายนิรันด์ ภรรยา และลูกสาว ขณะไปเที่ยวกันอย่างมีความสุข พร้อมกับเขียนข้อความประกอบคลิปว่า ดีจัยนะที่มึงมาหา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัว ได้มีโฟสต์ข้อความในลักษณะตัดพ้อว่า ขอบคุณเด้อที่ทำให้ผมรอด บ่ลืมทั้งสองคน ถ้ายังบ่หายจากโลกนี้ที่ทำให้ผมกับลูกรอด สำหรับสาเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำต่อไป