ข่าว

เรื่องจริง อย่านิ่งนอนใจ "ภาวะ AVF" เสียงดังในหู เสี่ยงเป็นโรคทางสมอง

เรื่องจริง อย่านิ่งนอนใจ "ภาวะ AVF" เสียงดังในหู เสี่ยงเป็นโรคทางสมอง

07 พ.ย. 2564

ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา เตือน เรื่องจริง อย่านิ่งนอนใจ "ภาวะ AVF" เสียงดังในหู เสี่ยงเป็นโรคทางสมอง ซับซ้อน ป้องกันยาก

ตามที่มีข้อความเตือนภัยในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ภาวะ AVF เสียงดังในหู เสี่ยงเป็นโรคทางสมอง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง 

 

 

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะ AVF หรือภาวะความผิดปกติของหลอดเลือดแดงกับโพรงหลอดเลือดดำบริเวณเยื่อหุ้มสมอง อาจส่งผลต่อการระบายเลือดกลับของสมองจะขึ้นกับตำแหน่ง และความผิดปกติของโพรงหลอดเลือดดำ ภาวะนี้มีการแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ตามการรบกวนการระบายเลือดกลับของสมอง ได้แก่ ชนิดไม่รุนแรง และชนิดรุนแรง ซึ่งชนิดรุนแรงจะเป็นชนิดที่รบกวนการระบายเลือดกลับของสมอง โดยจะส่งผลก่อให้เกิดภาวะความดันในหลอดเลือดดำสมองสูง เนื่องจากไม่สามารถระบายเลือดออกได้ จึงทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดและภาวะเลือดออกตามมาในที่สุด

 

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแสดงของภาวะชนิดไม่รุนแรงจะเกิดขึ้นตามตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่ถูกรบกวน เช่น ผู้ป่วยมีภาวะเสียงดังรบกวนในหูตามจังหวะชีพจร ซึ่งเกิดจากการรบกวนโพรงหลอดเลือดดำที่ฐานกะโหลกบริเวณหู อาการต่อมาที่พบได้บ่อยคือ เสียงฟู่สัมผัสได้บริเวณต่าง ๆ รอบศีรษะ และภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองเป็นอีกหนึ่งภาวะที่สามารถพบได้ เกิดจากการดูดกลับ
ของน้ำเลี้ยงสมองส่วนใหญ่ต้องผ่านโพรงหลอดเลือดดำ ภาวะชนิดรุนแรงอาการส่วนใหญ่จะเกิดจากภาวะความดันในหลอดเลือดดำสมองสูง ได้แก่ ความจำเสื่อม พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวผิดปกติ และแขนขาอ่อนแรง ซึ่งสาเหตุการเกิดโรค มักเกิดตามหลังภาวะโพรงหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน เป็นภาวะที่พบมากในผู้ป่วยเพศหญิง อาจเกิดตามหลังอุบัติเหตุทางศีรษะ และความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด แต่บางครั้งก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ชัดเจน

 

การวินิจฉัยผู้ป่วย ทำได้โดยแพทย์ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบฉีดสี หรือหากต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น แพทย์อาจพิจารณาผู้ป่วยส่งตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลเบื้องต้นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทโดยตรง เนื่องจากความซับซ้อนของสาเหตุการเกิดโรค จึงทำให้การป้องกันเป็นไปได้ยาก

 

 

อย่างไรก็ตาม การดูแลและตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงการรักษาโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะโรคนี้ได้ ปัจจุบันสถาบันประสาทวิทยามีการพัฒนา การรักษาโดยวิธีการใช้รังสีร่วมรักษาแ ละการรักษาผ่านทางสายสวนหลอดเลือด โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดสมอง ทำให้การดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
 

 

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

 

 

เรื่องจริง อย่านิ่งนอนใจ \"ภาวะ AVF\" เสียงดังในหู เสี่ยงเป็นโรคทางสมอง
.