ข่าว

จบแล้ว ปมยึดที่ดิน "วัดวังใหญ่" ไฟแนนซ์ถอนเรื่อง โอนเป็นกรรมสิทธิ์วัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จบแล้ว ปมยึดที่ดิน "วัดวังใหญ่" ขายทอดตลาด ธนบุรีลิสซิ่ง ลงพื้นที่ถอนเรื่องจากกรมบังคับคดี โอนเป็นกรรมสิทธิ์วัด พรุ่งนี้

จากกรณีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้สั่งบังคับคดีขายทอดตลาด "วัดวังใหญ่" เนื้อที่ 27 ไร่ ตั้งอยู่ กม.40 ถนนสาย 42 เพชรเกษม หมู่ 10 ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่อใช้หนี้ไฟแนนซ์ ภายหลังจากอดีตสมภารซื้อรถเบนซ์ไม่ยอมผ่อน จนเกิดประเด็นข้อสงสัยว่า ศาลสั่งยึดวัดได้อย่างไร

 

ล่าสุด ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.2564) บริษัท ธนบุรีลิสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นโจทย์ จะดำเนินการถอนเรื่องจากกรมบังคับคดี เพื่อที่จะดำเนินการให้ที่ดินแปลงดังกล่าว โอนเป็นกรรมสิทธิ ของวัดลำดับต่อไป 

 

จบแล้ว ปมยึดที่ดิน "วัดวังใหญ่" ไฟแนนซ์ถอนเรื่อง โอนเป็นกรรมสิทธิ์วัด

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พระครูสุวัฒนาภรณ์ นพรัตน์ หรืออาจารย์ภัทร รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี กล่าวว่า  หลังจากที่ทราบเรื่องว่า "วัดวังใหญ่" ถูกยึดเพื่อขายทอดตลาด คณะกรรมการวัดวัดใหญ่ โดยไวยาวัจกรณ์ได้ดำเนินการรวมรวมเอกสาร หลักฐาน ที่แสดงให้เห็นว่า ที่ดินที่ถูกประกาศขายทอดตลาด โดยสำนักงานบังคับคดีศาล จ.นาทวี เพื่อให้สำนักงานบังคับคดี เห็นถึงข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดี ได้ประสานงานกับโจทย์ผู้ฟ้องคือบริษัทธนบุรีลิสซิ่ง ให้ทราบข้อเท็จจริง โดยตัวแทนของบริษัทธนบุรีลิสซิ่ง จำกัด เดินทางมาดูข้อเท็จจริงว่า ที่ดินที่ถูกศาลสั่งให้ขายทอดตลาด เป็นที่ตั้งวัดจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริงบริษัทอาจะไม่ดำเนินการยึดเพื่อขายทอดตลาด ในขณะที่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นพุทธบริษัทในพื้นที่ ต.วังใหญ่ ที่ตั้งวัด ก็ได้มีการประชุมกัน เพื่อขอทราบจำนวนหนี้สินที่ถูกฟ้อง เพื่อที่จะรวมเงินจ่ายให้บริษัทธนบุรีลิสซิ่ง หากจำนวนไม่มากนัก และชาวบ้านพอมีกำลังในการช่วยไถ่ถอนวัดจากการถูกยึดในครั้งนี้

 

จบแล้ว ปมยึดที่ดิน "วัดวังใหญ่" ไฟแนนซ์ถอนเรื่อง โอนเป็นกรรมสิทธิ์วัด

สำหรับ "วัดวังใหญ่" มีการสร้างเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2540 โดยมีนายไสว ณ พัทลุง อดีตสรรพสามิต จ.พัทลุง และนางอำไพ อัมพุกานนท์ เป็นผู้บริจาคที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดิน นส.3 จำนวน 10 ไร่ เพื่อให้ตั้งวัด โดยในขณะที่ก่อสร้าง ยังไม่ได้มีการโอนที่ดินดังกล่าวให้เป็นธรณีสงฆ์ ตามกฎระเบียบของกรมการศาสนา หลังจากนั้น วัดและเจ้าคณะจังหวัดได้ติดต่อเจ้าของที่ดินทั้ง 2 คน ให้มาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้ที่ดินทั้งหมดเป็นธรณีสงฆ์ แต่ติดต่อไม่ได้ เรื่องจึงเงียบหายไป โดยไม่ทราบว่า นางอำไพ ได้ไปซื้อรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ จากตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่ง โดยมีบริษัทธนบุรีลิสซึ่ง เป็นไฟแนนซ์ ตั้งแต่ปี 2540 และไม่มีการผ่อน ดังนั้นเจ้าหนี้จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย เมื่อมีการสืบทรัพย์พบว่า นางอำไพมีที่ดินอยู่ที่ ต.วังใหญ่ อ.นาทวี จ.สงขลา จึงได้มีการร้องให้ศาลยึด เพื่อขายทอดตลาด 

 

อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 34 ยังบัญญัติว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ให้กระทำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติเท่านั้น ดังนั้น แม้มีการยึดที่ดินของวัดมาขายทอดตลาด ผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด ก็ไม่สามารถจดทะเบียนโอนเป็นของตนได้ เพราะยังไม่มีการออกพระราชบัญญัติให้โอนกรรมสิทธิ์ได้

 

นอกจากนี้ ที่ดินแปลงดังกล่าว ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดทันทีที่มีการแสดงเจตนาอุทิศให้ โดยไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 525 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อีก เมื่อที่ดินที่พิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดแล้ว ที่ดินพิพาทจึงเป็นที่ธรณีสงฆ์ ตามมาตรา 33 (2) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.146/2563)

 

ซึ่งหากเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าเป็นที่ตั้งของวัด และเป็นที่ดินของวัด ก็จะไม่ทำการยึด เพราะหากเป็นที่ดินของวัด ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 35 ก็ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี หมายความว่า ที่ดินของวัด ห้ามยึดมาขายทอดตลาด เพื่อเอาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์

 

 

logoline