รวบสาว "18มงกุฎ" จอมแสบ แชทลวงหนุ่มว่าแสร้งรัก เหยื่อหลงเชื่อสูญเงิน10ล้าน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.ท.อภิชน ขันกา สารวัตร กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม(สว.กก.4 บก.ป)  พร้อมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการ 5 กก.4 บก.ป. และตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2  ร่วมกันจับกุม "18มงกุฎ" นางสาวชนกนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี

ได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 15.30 น. หลังตกเป็นผู้ต้องหา "18มงกุฎ" ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 252/2564 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 โดยกล่าวหาว่า นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน และฉ้อโกง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ผู้เสียหาย ได้รู้จักกับผู้ต้องหา "18มงกุฎ" ผ่านทางเฟสบุ๊ก โดยผู้ต้องหาได้ใช้รูปของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมิใช่ตนเอง อ้างตนว่าชื่อ น.ส.นัดดาฯ เข้าตีสนิทกับผู้เสียหาย โดยช่วงแรก ผู้ต้องหาอ้างว่า มารดากำลังเดือดร้อนต้องการใช้เงิน ผู้เสียหาย จึงได้โอนเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 210,700 บาท เหตุเกิด ประมาณต้นเดือน มิถุนายน 2564 "18มงกุฎ" 

ต่อมา ผู้ต้องหา ได้แชทหาและแสดงท่าที ตอบตกลงจะหมั้นหมายกับผู้เสียหาย จึงมีการยกเงินจำนวนดังดกล่าวให้ โดยถือว่าเป็นค่าสินสอดทองหมั้น

จากนั้น ผู้เสียหาย กับ ผู้ต้องหา  ติดต่อพูดคุยแชทกันผ่านทางเฟสบุ๊กเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 5 สิงหาคม 2564  ผู้เสียหาย ตรวจพบยอดเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ระหว่างวันที่ 19-30 มิถุนายน 2564 จำนวน 2,641,000 บาท ได้ถูกโอนผ่านไปยังบัญชีผู้อื่น จำนวน 10 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 2,500,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความไว้ "18มงกุฎ" 

โดยระหว่างนั้น ผู้ต้องหา ได้ติดต่อมายังผู้เสียหาย และยอมรับว่า เป็นคนโอนเงินจำนวนดังกล่าวไป เพื่อซื้อที่ดินกับต้นไม้ พร้อมขอร้องไม่ให้ผู้เสียหายดำเนินคดีกับตน โดยอ้างว่าต่อไปผู้ต้องหาก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันกับผู้เสียหายอยู่แล้ว พร้อมอ้างคำสัญญาถึงการนำมาคืนโดยเร็ว ผู้เสียหาย จึงไม่ดำเนินคดี "18มงกุฎ" 

ต่อมา ผู้ต้องหา "18มงกุฎ" กลับออกอุบายอีกครั้ง โดยอ้างว่าอยากเปิดโรงงาน และจดทะเบียนการค้าเพื่อทำธุรกิจ จึงขอให้ผู้เสียหาย ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โดยใช้ที่ดินเนื้อที่ 9 ไร่ ไปประกาศขายในราคาไม่ต่ำกว่าไร่ละ 1,700,000 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งช่วยเหลือในการทำธุรกิจดังกล่าว

กระทั่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564  ผู้ต้องหาอ้าง ขายที่ดินแปลงดังกล่าวได้แล้วในราคา 16,700,000 บาท และได้นัดหมายทำสัญญาโอนขายที่ดินให้กับผู้ซื้อรายหนึ่ง ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ โดยในวันทำสัญญาโอนขายที่ดิน พร้อมอ้างเงินค่าซื้อขายที่ดินได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว ผู้เสียหาย จึงยอมลงชื่อในสัญญาโอนขายที่ดินดังกล่าว
 

แต่ภายหลัง  ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป และเมื่อตรวจสอบยอดเงินในบัญชี พบว่า ไม่มีเงินค่าซื้อขายที่ดินโอนเข้าบัญชีธนาคาร ผู้เสียหาย จึงได้สอบถามไปยังผู้ซื้อที่ดิน จนทราบว่าผู้ต้องหา ได้เสนอขายที่ดินให้กับผู้ซื้อในราคาเพียง 7,500,000 บาท และในวันทำสัญญาโอนขายที่ดิน ผู้ซื้อก็ยืนยันว่าได้มอบเงินสดจำนวนดังกล่าวให้กับผู้ต้องหา "18มงกุฎ" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด ผู้เสียหาย เชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์  "18มงกุฎ"