
ปั้น "คนพันธุ์AI" ให้เก่งธุรกิจ-Tech รับมือยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4
เซเว่นฯ ยกทัพหลากองค์กรมืออาชีพAIร่วมจัดค่าย “CREATIVE AI CAMP”ปีที่4 แบบเข้มข้นเกือบ2เดือนผ่านออนไลน์ ชูแนวคิดAI Altering The World ปั้น "คนพันธุ์AI" ให้เก่งทั้งธุรกิจและTech รับมือยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4
"คนพันธุ์AI" ตลาดทุกอาชีพ ทุกธุรกิจและทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ต้องการมนุษย์ที่มีความรู้ความสามารถ และทักษะชีวิต ผสมผสานหลากองค์ความรู้เพื่อก้าวสู่โลกไอทีสร้างผลงานนวัตกรรมตอบโจทย์สังคม
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า การส่งเสริมการเรียนรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แก่เยาวชนไทย ถือเป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์
บริษัทจึงได้ร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรทั้งไทยและนานาชาติ จัดค่ายCreative AI Campปีที่4 ขึ้นภายใต้แนวคิด“AI Altering The World” ในรูปแบบPhenomena Work-based Education Learning สร้างการเรียนรู้ผ่านVDO Conferenceบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ระยะเวลาเกือบ2เดือนเต็ม เพื่อให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ได้มีโอกาสศึกษาศาสตร์และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับAIซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลต่อการพลิกโฉมทั้งสังคมและธุรกิจโลก
“โลกของเรากำลังอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4เป็นโลกในยุคDigitizationที่ทุกอาชีพ ทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรม กำลังถูกเปลี่ยนภูมิทัศน์หรือLandscapeไปอย่างสิ้นเชิง และAIคือตัวแปรสำคัญที่สุดตัวหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต กระบวนการทำงาน พร้อมทั้งสร้างสรรค์Business Modelใหม่ๆ ขึ้นบนโลกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แนวคิดการจัดค่ายในครั้งนี้ จึงมุ่งหวังการเข้าไปสร้างความตระหนักให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง ว่าAIในวันนี้ไม่ใช่แค่Gimmickแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ตัวเยาวชนเองอาจเป็นทั้งผู้ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์AIมาพลิกโฉมโลกในอนาคต” นายก่อศักดิ์ กล่าว
ด้านรศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล หนึ่งในที่ปรึกษากรรมการจัดค่ายCreative AI Camp กล่าวว่าAIเข้ามาสัมผัสและเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งโดยรู้ตัวและโดยไม่รู้ตัว
ค่ายCreative AI Campจะเปิดโอกาสให้เยาวชนจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศได้ตระหนักถึงสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และได้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนใหม่ สร้างสรรค์ไอเดียในการพัฒนานวัตกรรม
โดยปีนี้ ทางค่ายได้เชิญวิทยากรที่ทำงานจริงในด้านAIจากหลากหลายบริษัทชั้นนำของโลก มาร่วมเป็นวิทยากร เพื่อให้เยาวชนเห็นภาพความต้องการใช้งานจริงของแต่ละองค์กร และเข้าถึงแนวคิดที่จำเป็นสำหรับการสร้างสรรค์ผลงาน
สำหรับพันธมิตรและวิทยากรหลักในการจัดค่ายปีนี้ มีมากกว่า20ราย อาทิคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์(PIM), ผู้เชี่ยวชาญด้านAIจากบริษัท โกซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไอโนว์พลัส จำกัด,SUNPLEX GROUP,Ambient Group,Data ScientistจากบริษัทAIชั้นนำในญี่ปุ่น,Amazon Web Service (AWS)
ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มคลาวด์และให้บริการระบบคลาวด์ระดับโลกและ บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น จำกัดผู้ให้บริการด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับงานบริการและอุตสาหกรรมแบบครบวงจร
ด้านนายป๋วย ศศิพงศ์ไพโรจน์ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สำนักปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า นอกเหนือจากการบูรณาการวิธีสร้างสรรค์ AIผ่านปรัชญาการเล่นหมากล้อม (Creative AI Convergence by Go Philosophy) และการเพิ่มIQผ่านความรู้เกี่ยวกับกลุ่มเทคโนโลยี ABCD อันประกอบด้วยAI (ปัญญาประดิษฐ์),Blockchain (บล็อกเชน),CloudและDigital Dataแล้ว
ปีนี้จะมีการแบ่งกลุ่มเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ใน2สายงาน ได้แก่1.Business AI มุ่งเน้นองค์ความรู้เชิงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้AIและ2.Technical AI มุ่งเน้นทักษะเชิงลึกด้านเทคโนโลยี
“ความสำเร็จของการสร้างสรรค์AIไม่ได้เกิดขึ้นจากแค่เข้าใจการเขียนอัลกอริทึม หรือมีทักษะการเขียนโปรแกรม เทรนด์ที่เราเห็นบนโลกขณะนี้คือ สตาร์ทอัพหรือTech Companyจำนวนมาก ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมโลก
เพราะเข้าใจUser ExperienceหรือUXเข้าใจภูมิทัศน์ของสังคม เข้าใจภูมิทัศน์ของธุรกิจต่างๆ จึงสร้างสรรค์AIที่เข้าไปช่วยพัฒนาหรือช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุดได้
ปีนี้เราจึงเน้นให้วิทยากรมืออาชีพมาช่วยสอดแทรกประสบการณ์จริงที่สัมผัสกับภาคส่วนต่างๆ ให้เยาวชนเห็นภาพมากขึ้น เช่น เรื่องRobotics Process AutomationหรือRPAเรื่องAutomationจะนำมาเกี่ยวข้องกับสังคมและธุรกิจอย่างไร
ขณะเดียวกัน ก็จะปรับกระบวนการคิดของเยาวชนให้มีความยืดหยุ่น พร้อมที่จะReskillsหรือRe-trainingตัวเองทุก4-5ปี ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงขององค์ความรู้ในอนาคต” นายป๋วย กล่าว
ทั้งนี้ ค่ายในปีนี้ ถือเป็นปีที่มีกระแสตอบรับสูงมาก โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมค่ายถึง439คนจากทั่วประเทศ ก่อนคัดเหลือเพียง40คนเพื่อเข้าร่วมค่ายจริง สะท้อนถึงความสนใจของเยาวชนต่อด้านAIและความสนใจต่อค่ายCreative AI Camp
โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือก นอกจากจะได้เป็นสมาชิกร่วมเรียนรู้ในค่ายแล้ว ยังได้สิทธิเป็นสมาชิกCreative AI Clubชุมชนและพื้นที่การเรียนรู้ด้านAIที่มีอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และWorkshopอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือก ยังสามารถยื่นสมัครเข้ามาเพื่อพิจารณาได้ในค่ายปีถัดไป
สำหรับค่ายCreative AI Camp จัดขึ้นภายใต้ปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน” มุ่งเน้นให้เหล่าเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ ได้พัฒนาทักษะความสามารถจนกลายเป็น “คนพันธุ์AIหัวใจโกะ” (CreativeAIness) วิถีความเป็นมนุษย์AIสร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์AIผสมผสานปรัชญาหมากล้อมเพื่อประโยชน์ของสังคม และกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนโลกในอนาคต