ข่าว

จลาจลบอลถ้วย'ก.'แฟนหนีตายชุลมุน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อัปยศฟุตบอลไทย ลูกหนังถ้วยพระราชทาน ก. เตะไม่จบกองเชียร์ “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือไทย ก่อเหตุจลาจลไล่กระทืบแฟนบอลเมืองทองฯ จนเกมยุติกลางคัน เมืองทองฯนำอยู่ 2-0 คว้าแชมป์ไปครองทันที สมาคมฟุตบอลฯทำเรื่องประชุมลงโทษด่วน ส่วนพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ขอดูเทปก่อนส

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ประจำปี 2552 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา“กิเลนผยอง” เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่ได้เข้าชิงถ้วย ก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสต์สโมสร ลงดวลแข้งกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี แชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009 และอดีตแชมป์ถ้วย ก 7 สมัย โดยมี นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรีผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธี

 “กิเลนผยอง” จัดนักเตะชุดใหญ่ลงเต็มอัตรามีนักเตะดีกรีทีมชาติไทยอย่าง กวิน ธรรมสัจจานันท์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงษ์ วงศา, ดัสกร ทองเหลา, ธีรเทพ วิโนทัย และดาวเตะต่างชาติ ซามูโฮโร ยายา และโคเน โมฮัมเหม็ด นำทัพ ขณะที่“สิงห์เจ้าท่า” วาง ศรายุทธ ชัยคำดี และสมปอง สอเหลบ สองอดีตหัวหอกทีมชาติลงเป็นทีเด็ด พร้อมทั้ง อาลีฟ เปาะจิ และวรวุฒิ วังสวัสดิ์ เป็นกำลังสำคัญ

 เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมสู้กันอย่างสนุกสูสีแบบผลัดกันรุกและรับ แต่ยังไม่มีสกอร์จบครึ่งแรก 0-0 ครึ่งหลังเมืองทองฯตัดสินใจถอด 2 นักเตะทีมชาติไทยเอา ดัสกร ทองเหลา กับ ธีรเทพ วิโนทัย ออกแล้วส่ง คริสเตียน คัวคู กับ อมร ธรรมนาม ลงมาแทน และเมืองทองฯ เริ่มทำเกมบุกกดดันได้มากขึ้น นาที 64 ท่าเรือไทย ต้องปรับแท็กติกส่ง เอกชัย ปรีชากุล ลงแทน วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ก่อนที่เมืองทองฯ จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเอา พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงแทน ซิลลา มุสซา นาที 66

 เกมเข้าสู่นาที 67 เมืองทองฯ ได้ลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เปิดโด่งมาเสาสอง โคเน โมฮัมเหม็ด พุ่งเข้าชาร์จบอลตุงตาข่ายเป็นประตูให้ “กิเลนผยอง” ออกนำ 1-0 เอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่นาที 72 จีระวัฒน์ มัครมย์ ได้จังหวะซัดจากนอกเขตโทษ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดเอาไว้ได้ หลังจากนั้นท่าเรือส่ง อิสระพงษ์ ลิละคร แทน เกียรติเจริญ เรืองปาน 

 ท้ายเกมนาที 81 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เปิดลูเตะมุมฝั่งขวาโด่งมาหน้าประตู ลูกหลุดไปถึง ดักโน เซียก้า โขกระยะเผาขนทำประตูที่สองให้เมืองทองฯออกนำ 2-0 ท่ามกลางการประท้วงของนักเตะท่าเรือที่มองว่าเป็นลูกแฮนด์บอล จากนั้นเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อกองเชียร์ท่าเรือไม่พอใจขว้างขวดน้ำลงมาในสนาม และจุดพลุไฟเขวี้ยงลงมา รวมถึงจุดประทัดขึ้นฟ้าเสียงดังลั่นสนาม จนเกมต้องยุติลงกลางคัน

 เหตุการณ์บานปลายมากขึ้นเมื่อกองเชียร์การท่าเรือแหกรั้วกั้นเข้าไปทำร้ายกองเชียร์ของเมืองทองฯจนคนดูวิ่งหนีกระโดดลงจากอัฒ จันทร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสารวัตรทหาร ที่มีเพียงไม่กี่คนไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ ทำให้เกิดเหตุวิวาทชกต่อยกันรอบสนาม กองเชียร์ของท่าเรือวิ่งทำร้ายกองเชียร์เมืองทองจนแตกฮือหนีตายลงจากอัฒจันทร์ และกองเชียร์ท่าเรือบางส่วนได้ทำลายป้ายโฆษณาในสนาม พร้อมทั้งพยายามจุดไฟเผาธงเชียร์ของเมืองทอง

 ทำให้นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทย ต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอความร่วมมือให้กองเชียร์สิงห์เจ้าท่าอยู่ในความสงบ และนักเตะท่าเรือได้มาขอร้องให้ยุติก่อเหตุวุ่นวาย จนเวลาผ่านไปกว่า 30 นาทีเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายกองเชียร์ท่าเรือยอมกลับขึ้นบนอัฒจันทร์ โดยนายพิเชฐ มั่นคง ประกาศแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมด และให้ถือว่าการแข่งขันสิ้นสุดแล้วเมืองทองฯ คือแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภท ก

 ขณะที่ “มร.โอเค” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้นทำให้เกมต้องยุติและถือว่าเมืองทองฯคือแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก ส่วนการกระทำของกองเชียร์การท่าเรือ จะมีการนำเข้าที่ประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อพิจารณาโทษ ซึ่งอาจจะมีการตัดสินห้ามคนดูเข้าชมในสนามหรือมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด

 “บิ๊กย้อย” พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคมฟุตบอลไทยและผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะขอเทปบันทึกภาพจากสื่อมวลชนมาตรวจสอบภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเห็นว่ามีพฤติกรรมที่กระทำผิดกฎหมายหลายอย่าง เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการทางกฎหมายด้วย หากได้เทปมาแล้วจะดำเนินกับผู้กระทำผิดทันที

 ด้าน "เปาอั๋น" ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ผู้ควบคุมการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันนัดนี้ถือว่าจบในเวลา เพราะเกิดการจลาจลก่อนหมดเวลา 9 นาที และทางการท่าเรือไทย ไม่ขอแข่งต่อ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวภายในสมาคมฟุตบอลไทย เผยว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คะแนนของทีมสโมสรไทยที่จะไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบสุดท้ายอัตโนมัติถือหมดลงไปแล้ว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จับตาดูอยู่แน่นอน พร้อมกับหลายชาติเป็นคู่แข่งของไทย ต้องเสนอข่าวลบของไทยต่อเอฟเอซีอย่างแน่นอน ทำให้สิ่งที่ทำมาตลอดจบลงไปเลย เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้อาจต้องไปเล่นรอบคัดเลือก

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ