"รหัส OTP" คืออะไร? ทำไมห้ามบอกใคร ตำรวจเตือนภัยให้รู้ทันโจรออนไลน์
ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยอย่าไว้ใจให้รหัส OTP กับใคร พร้อมแนะนำ 4 วิธีป้องกันเบื้องต้น ไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่อ
จากกรณีตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สามารถจับกุมตัวสาวแสบวัย 31 ปี ก่อเหตุหาเหยื่อตามโซเชียล แฮกไลน์ยืมเงิน โดยการสวมรอยออกอุบายหลอกถามรหัส OTP เพื่อติดต่อมาขอยืมเงิน จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ และยังมีข่าวหลายกรณีที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อคนร้ายลักษณะนี้จำนวนมาก
ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอเตือนภัยจากการใช้รหัส OTP ในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยแนะนำให้ทุกคนทำการกรอกรหัส OTP ด้วยตนเอง อย่าไว้ใจให้ใครดำเนินการให้ ไม่เช่นนั้นจะถูกดูดเงินในบัญชีจนหมดเกลี้ยง
ทั้งนี้ในปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการโอนเงินถอนเงิน หรือซื้อสินค้าและบริการ โดยการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง มักจะมีรหัส OTP ขึ้นมาให้กรอกอยู่เสมอ
วันนี้ตำรวจสอบสวนกลางได้มาให้ความรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของรหัส OTP ที่ไม่ควรบอกผู้อื่น พร้อมอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า รหัส OTP นั้นคืออะไร? สำคัญมั้ย?
OTP ย่อมาจาก One Time Password หมายถึงรหัสที่ใช้เพียงครั้งเดียวในการเข้าสู่ระบบ ทุกครั้งที่เข้าระบบจะได้รหัสชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผ่านทาง SMS ตามเบอร์โทรศัพท์ที่กรอกไว้ มีอายุการใช้งาน 3-5 นาที ต่อ 1 รหัส ดังนั้น OTP จะช่วยให้ไม่ต้องจดจำรหัสผ่านและช่วยรักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำรหัสไปใช้
ซึ่งมิจฉาชีพในปัจจุบัน มักจะหลอกลวงผู้อื่น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือค่ายโทรศัพท์ หลอกให้เหยื่อหลงกลส่งเลขรหัส OTP ผ่าน SMS หรือ เว็บไซต์ที่แนบลิงก์เอาไว้ เมื่อกดเข้าไปจะโดนดูดข้อมูลส่วนตัว เพื่อสวมรอยเป็นเหยื่อไปทำธุรกรรมสร้างความเสียหาย หรือโอนย้ายเงินในบัญชี เปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีกับแอปพลิเคชัน บัญชีบัตรเครดิต และ การจ่ายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น
ดังนั้นรหัส OTP จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรเปิดเผยให้ผู้อื่นรู้ เพราะเสี่ยงต่อการโจรกรรมข้อมูล ทำให้เสียทรัพย์ได้ในภายหลัง
วิธีป้องกันเบื้องต้น ไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่อ มีดังนี้
- อย่าหลงเชื่อลิงก์ที่แนบมาพร้อมกับข้อความ SMS อีเมล เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือโปรแกรมสนทนาต่างๆ และห้ามเปิดลิงก์ที่แนบมาอย่างเด็ดขาด
- ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผ่านการร้องขอทุกรูปแบบต่าง ๆ หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่องทางการบริการ ให้ติดต่อกับผู้บริการด้วยตนเอง
- เลือกใช้บริการแจ้งเตือน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีตลอดเวลา
- กรณีหลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลหรือรหัสผ่านไปแล้ว ให้รีบติดต่อผู้ให้บริการเพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังการส่งข้อมูลส่วนตัว และรหัส OTP แก่บุคคลอื่น ไม่ว่าจะในรูปแบบข้อความหรือรูปภาพ หากประชาชนมีข้อสงสัย หรือพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลเข้าไปได้ที่ เพจตำรวจสอบสวนกลาง