ต้องการทำงาน "แรงงานต่างด้าว" ยอมเสียค่าหัว เข้าเมืองพุ่งสูงขึ้น

วันที่ 5 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าว จ.สระแก้ว รายงานว่า จนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ ยังสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทหาร-ตำรวจ สกัดแรงงานชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าไทย 2 จุด รวม 46 ราย ตรวจพบค่าหัวจ่ายเข้าเมืองพุ่งสูงขึ้น

พ.อ.รณรงค์ เส็งมี ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพิ่มความเข้มงวด สกัดจับ โดยจุดแรก บริเวณบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จำนวน 35 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 19 คน 

เบื้องต้น ทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมด เดินทางมาจาก จ.พระตะบอง จ.เสียบเรียบ จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.กำปอด เพื่อเดินทางเข้าไปทำงานในโรงงานขนมปัง งานก่อสร้าง ร้านหมูกระทะ และบริษัทใน จ.ระยอง กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี และ จ.ปทุมธานี ติดต่อกับเพื่อนและนายหน้าทางเฟซบุ๊ก ตกลงจ่ายค่านำพาจาก กัมพูชา ถึงที่ทำงานในประเทศไทย รายละ 6,000- 9,000 บาท

แรงงานกัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า ก่อนเข้ามาในประเทศไทย ต้องจ่ายค่าเดินทางแล้ว คนละ 500 บาท และจะจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อถึงปลายทาง โดยการข้ามมาฝั่งไทยมีชาวกัมพูชาเป็นผู้นำทาง พาเดินและลักลอบข้ามแดนผ่านคลองน้ำใส บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อมารอขึ้นรถของคนไทย เข้าไปสู่ตอนในของประเทศ เบื้องต้นแรงงานกัมพูชาทั้ง 35 คน ไม่มีเอกสารใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ และใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด 

ส่วนอีกจุด เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน กองร้อยทหารพรานที่ 1305 ฉก.คลองหาด และ สภ.คลองหาด สกัดจับแรงงาน บริเวณ ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เป็นชาวกัมพูชา 11 คน เป็นชาย 6 หญิง 5 คน ให้การว่า ทั้ง 11 คน เป็นชาว จ.โพธิสัตย์ ประเทศกัมพูชา ต้องการลักลอบเข้ามาเพื่อจะเดินทางไปทำงานบริษัทก่อสร้างที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยต้องเสียค่านำพาจนถึงปลายทางรายละ 7,000 บาท แต่มาถูกจับกุมได้ก่อน

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการตรวจคัดกรองป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของชาวกัมพูชาทั้งหมด ทุกคนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก่อนนำตัวส่งให้ พนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย สภ.คลองน้ำใส 35 คน และพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด 11 คน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ยุทธนาพึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระแก้ว