ข่าว

"ราคาผักผันผวน" เพราะฝนตก น้ำท่วม ผักน้อย น้ำมันแพง จะเริ่มดีขึ้นหลังน้ำลด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผักในพื้นที่มีค่อนข้างน้อย พ่อค้าแม่ค้าคนกลาง ต่างแย่งซื้อ ทำให้ราคาสูงขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันก็สูงขึ้น เมื่อนำไปส่งยังปลายทางจึงต้องบวก "ค่าน้ำมัน" เพิ่ม

กรณีพืชผักราคาพุ่งขึ้นสูงกว่าทุกปี ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน โดยเฉพาะร้านอาหาร รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย แทบจะนำไปขายต่อไม่ได้ และต่างเกิดความสงสัยว่า เกิดจากปัญหาใด มาจากพ่อค้าคนกลาง หรือ ผักต้นทางขึ้นราคา ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สำรวจที่ตลาดขาย-ส่งผัก บริเวณสี่แยกพ่อขุนผาเมือง ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นตลาดผักที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง ผักส่งขายเกือบทั่วประเทศ 

 

นางอุทัย เหมลา เกษตรกร ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ บอกว่า ตนเองปลูกผักขายมานาน โดยหลักจะเป็น ผักกวางตุ้งดอก เนื้อที่ปลูกประมาณ 1 ไร่ ตลอดทั้งปีราคาแพงบ้างราคาถูกบ้าง โดยถูกที่สุดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 – 10 บาท ราคาสูงสุดที่เคยขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 – 40 บาท แต่มาในปีนี้ราคาพุ่งขึ้นไปถึง 100 – 120 บาท แต่ช่วงนี้ลดลงมาบ้าง เหลือประมาณ 70 – 80 บาท แล้วแต่บางวัน

 

สาเหตุที่ปีนี้ราคาแพง เนื่องจากฝนตกชุก น้ำท่วม ทำให้ไม่มีพื้นที่ปลูก และผลผลิตก็ได้น้อย เพราะดูแลยาก แต่เมื่อผักไปถึงปลายทางกรุงเทพแล้ว ราคาจะอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 170 – 180 บาท ซึ่งถือว่าแพงมาก ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากการที่น้ำมันแพง หลังปีใหม่ราคาพืชผักจะถูกลงอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้น้ำท่วมลดลงแล้ว เกษตรกรก็เริ่มปลูกผัก และผลผลิตก็จะออกพร้อม ๆ กัน

"ราคาผักผันผวน" เพราะฝนตก น้ำท่วม ผักน้อย น้ำมันแพง จะเริ่มดีขึ้นหลังน้ำลด

นายสุพร แซ่ว่าน เกษตรกรชาวภูทับเบิก ปลูกผักกาดขาว บอกด้วยว่า ผักที่ตนเองนำมาส่งในวันนี้ราคากิโลกรัมละ 24 บาท ถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ และไม่เคยขายได้ราคาดีนี้มาก่อน ที่ผ่านมาจะขายได้กิโลกรัมละ 10 – 15 บาท และเคยมีราคาต่ำสุดกิโลกรัมละ 1.50 บาท ตนเองถึงกับต้องไถทิ้ง เพราะเก็บมาขายก็ไม่คุ้มทุน 

 


โดยราคาขายที่คุ้มทุน จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 – 15 บาท ก็พอจะได้กำไรบ้าง ส่วนในปีนี้ราคาผักแพง เนื่องมาจากฝนตกชุก ผักที่ปลูกบนเขาแทบจะไม่ได้ผลผลิต อีกทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าจ้างแรงงานก็แพง ก็ไม่รู้ว่าราคาผักถูกลงแล้ว จะทำให้ขาดทุนหรือไม่

"ราคาผักผันผวน" เพราะฝนตก น้ำท่วม ผักน้อย น้ำมันแพง จะเริ่มดีขึ้นหลังน้ำลด

ด้านนายนัท อินปัน พ่อค้าผัก ชาว อ.หล่มสัก บอกว่า ผลผลิตและปริมาณผักในพื้นที่มีค่อนข้างน้อย พ่อค้าแม่ค้าคนกลางก็ต้องแย่งกันซื้อ ทำให้ราคาสูงขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อนำไปส่งยังปลายทางจึงต้องบวกค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไปด้วย และเมื่อพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย นำไปขายก็จะบวกกำไรเพิ่มอีก จึงทำให้ผักปลายทางมีราคาแพงกว่าต้นทางพอสมควร รวมทั้งพ่อค้าคนกลางยังต้องเสี่ยงที่จะขาดทุนเพราะผักราคาจะขึ้น - ลงเร็วมาก 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.64) ราคาพืชผักอื่น ๆ ในตลาดขายส่ง เช่น มะเขือเปราะ ราคากิโลกรัมละ 32 บาท ถั่วฝักยาวกิโลกรัมละ 45 บาท ผักชี กิโลกรัมละ 230 บาท คื่นช่าย กิโลกรัมละ 250 – 300 บาท เป็นต้น ซึ่งหากนำส่งตลาดปลายทาง ราคาจะพุ่งขึ้นอีกเกือบเท่าตัว
"ราคาผักผันผวน" เพราะฝนตก น้ำท่วม ผักน้อย น้ำมันแพง จะเริ่มดีขึ้นหลังน้ำลด ภาพ/ข่าว พันคำ เทศประสิทธิ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบูรณ์

logoline