รวบ 2 ผัวเมีย "มือขโมยบอนสี" ตระเวนขับรถขโมยบอนราคาแพง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าเราเดินทางมาสู่ยุคที่มีโจรขโมยต้นไม้กันแล้ว ด้วยความที่ช่วงนี้ตลาดไม้ด่าง บอนสี ค้าขายกันสนุกราคามีแต่พุ่ง ไม่ต่างจากราคาน้ำมัน มีตั้งแต่ต้นละหลักร้อยไปจนถึงหลักล้าน โจรบางส่วนเลยหันมาเอาดีทางขโมยบอนสีแทนขโมยทองคำ 

และนี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านนงณภัสแอร์ ซอย 9 หมู่ 2 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี และภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านพิมพาภรณ์1 เขต อ.เมืองชลบุรี ที่เจ้าของได้โพสต์ไว้จนกลายเป็นข่าวดัง โดยคนร้ายเป็นชายหญิง ขับรถมาจอดแล้วลงไปยกต้นบอนสีขึ้นรถหลบหนีไปหน้าตาเฉย ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ได้ขโมยที่เดียว 2 คนร้ายตระเวนขับรถไปขโมยบอนสีตามที่ต่างๆโดยแต่ละที่จะได้ต้นบอนสีที่มีราคาสูง กว่า 10 ต้น  

พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โอสถานนท์ รอง ผกก.สส.และ พ.ต.ต.ชัยณรงค์ จอมเล็ก สว.สส.พร้อมพวกติดตามจับกุม จนวันที่ 4 พ.ย.64 ได้จับกุมคนร้ายทั้ง 2 คน คือ นายธนสาร อายุ 30 ปี น.ส.ณัฏฐศศิ อายุ 30 ปี (ขอสงวนนามสกุล) 2 ผัวเมีย พร้อมยึดต้นบอนสีของกลางจำนวน26 ต้น ซึ่งในขณะที่นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชลบุรี มีผู้เสียหาย 4 คน ตามมาดูต้นบอนสีและหน้าคนร้ายด้วย

นายธนสาร ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเมื่อก่อนทำงานรับจ้างทั่วไป แต่มาเจอพิษโควิด-19 ทำให้ไม่มีใครจ้างงาน ตกงานทั้ง 2 คน แต่ที่ก่อเหตุเพราะตนมีลูก 2 คนต้องเลี้ยง จึงจำใจก่อเหตุ โดยจะเอาไปขายตามตลาดนัดและมีการไลน์สดขายต้นไม้ด้วย แต่ที่ขโมยมายังไม่ได้นำออกขาย เพียงแต่เปลี่ยนกระถางเท่านั้นเอง ถ้าจบคดีนี้แล้วขอยืนยันว่าจะไม่กลับมาก่อเหตุอีกแน่นอน

นายประทิน สุวรรณรัตน์ อายุ 53 ปี ผู้เสียหายโดนคนร้ายขโมยต้นบอนสีไป เผยว่าจากการที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดทราบว่าคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดูในเวลากลางวัน หลังจากนั้นตอนกลางคืนก็ขับรถยนต์มาขโมยเอาไป เขาอ้างเรื่องที่มีลูก จำใจต้องขโมยหารายได้ ใจจริงก็ไม่อยากเอาความเพราะเห็นแก่เด็ก นายประทินแนะว่า ทุกคนเผชิญความลำบากช่วงโควิดทั้งสิ้น แต่ทางออกมีหลายทาง เช่น ค้าขาย หางานอื่นทำ แต่การอ้างพิษโควิดแล้วมาขโมยของมันไม่สามารถทำได้ เพราะการขโมยของมันเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด ส่งตัวให้ ร.ต.อ.รัชพล รัชวการ รอง สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดีต่อไป     

  ภาพ/ข่าว วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าว คมชัดลึก จ.ชลบุรี