ครม.เคาะ 28 ธ.ค. "ภาคตะวันออก" รำลึกพระเจ้าตาก ส่วน65 มีหยุดเพิ่มอีก 4 ทั่วไทย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประวันที่ 4 พ.ย.2564 โดยที่ประชุมมีมติ เคาะวันหยุดพิเศษ ประจำ "ภาคตะวันออก" เป็นวันที่ 28 ธ.ค.2564 ซึ่งเป็นวัน "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออก เป็นเส้นทางและฐานพักแรม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงใช้เป็นที่รวบรวมกำลังพลและสะสมเสบียง ก่อนที่เดินทัพกอบกู้เอกราช ซึ่งเกี่ยวพันกับทุกจังหวัดในภาคตะวันออก 

ก่อนหน้านี้ ครม.ประกาศให้วันที่ 21 ต.ค.2564 เป็นวันหยุดภาคกลาง คือวัน "ออกพรรษา" ซึ่งไม่รวมภาคตะวันออก 8 จังหวัดดังกล่าว ทำให้ตะวันออกเป็นภูมิภาคเดียว ที่ไม่มีวันหยุดพิเศษ ส่วนในปีหน้า จะไม่มีวันหยุดประจำภาคแล้ว

ทั้งนี้  8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี และ นครนายก

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังได้เห็นชอบวันหยุดราชการ ประจำปี 2565 จำนวนรวมทั้งสิ้น 19 วัน และเห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ จำนวน 4 วัน ได้แก่

• วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. 2565 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ซึ่ง วันพุธที่ 13 ก.ค.65 เป็นวันอาสาฬหบูชา วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค.65 เป็นวันเข้าพรรษา วันศุกร์ที่ 15 ก.ค.65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วัน (รวมวันเสาร์และวันอาทิตย์)
• วันศุกร์ที่ 29 ก.ค. 2565 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ซึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ค.65 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันศุกร์ที่ 29 ก.ค.65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน (รวมวันเสาร์และวันอาทิตย์)
• วันศุกร์ที่ 14 ต.ค. 2565 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งวันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค.65 เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันศุกร์ที่ 14ต.ค.65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน (รวมวันเสาร์และวันอาทิตย์)
• วันศุกร์ที่ 30 ธ.ค.2565 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งวันศุกร์ที่ 30 ธ.ค.65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ทำให้ช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ติดต่อกัน 4 วัน จนถึงวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันหยุดชดชเยวันขึ้นปีใหม่

ทั้งนี้ เพื่อให้มีวันหยุดยาวในแต่ละช่วง เชื่อมโยงกันกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการเดินทาง และจะส่งผลดีต่อการค้า การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศโดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้ง เป็นการสนับสนุนการ "เปิดประเทศ" เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม แต่หากหน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็น มีราชการสำคัญ ก่อนที่จะกำหนดให้มีวันหยุดราชการดังกล่าว หากยกเลิกหรือเลื่อนจะเกิดความเสียหาย ให้หัวหน้างาน หรือหน่วยงานนั้น พิจารณาตามความเหมาะสม