
ชาวนาเชียงราย รวมตัวร้อง "ราคาข้าวตกต่ำ" เสนอจัดโซนนิ่งปลูกข้าว
กรณีสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย เสนอการจัดระเบียบพื้นที่หรือโซนนิ่งการปลูกข้าว เพราะประเทศไทยมีภูมิประเทศและอากาศแตกต่างกัน
วันที่ 4 พ.ย.64 ตัวแทนชาวนา จาก 18 อำเภอ จ.เชียงราย นำโดย นายณรงค์ เขื่อนคำแสน รวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องความคืบหน้าจากทางรัฐบาล กรณีสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ได้ยื่นข้อเสนอที่รวบรวมจากชาวนาจำนวน 9 ข้อ ไปยังรัฐบาลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอให้ช่วยเหลือเรื่องราคาผลผลิตข้าว
โดยขอให้ พยุงราคาข้าวเหนียวสดความชื้นไม่เกิน 25% ในราคา 10 บาท ข้าวจ้าวในราคา 9 บาท ขอรับการสนับสนุนไซโลและลานตากในทุกหมู่บ้าน ขยายตลาดรับซื้อโดยนำพ่อค้าจากแหล่งอื่นเข้ามาสนับสนุน จัดพื้นที่การปลูกข้าว ปรับค่าเฉลี่ยผลผลิตต่อไร่ ข้าวเปลือกหอมมะลิจาก 360 กิโลกรัมต่อไร่เป็น 650 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวเปลือกเจ้าจาก 445 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 700 กิโลกรัมต่อไร่
นายณรงค์ เขื่อนคำแสน สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย พื้นที่ อ.แม่สาย กล่าวว่า เนื้อหาที่สภาเกษตรกรนำเสนอต่อรัฐบาล มีสำคัญโดยเฉพาะการจัดระเบียบพื้นที่หรือโซนนิ่งการปลูกข้าว เพราะประเทศไทยมีภูมิประเทศและอากาศแตกต่างกัน
ซึ่งข้าวเหนียวจะให้ผลผลิตที่มีคุณภาพในภาคเหนือ ข้าวหอมมะลิในภาคอีสาน ข้าวจ้าวในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง หากรัฐบาลสามารถจัดหาตลาดให้รับซื้อได้ตามสายพันธุ์ และภูมิภาค จะทำให้เกษตรกรมุ่งผลิตข้าวที่มีคุณภาพในแต่ละพื้นที่ แทนการปลูกให้ได้จำนวนมากๆ แต่คุณภาพด้อยกว่า ทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
หากการเสนอครั้งนี้ไม่เป็นตามแนวทางที่เสนอ คงมีการรวมตัวอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กว่านี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ข้อเสนอทั้งหมดต้องทำให้ได้ในฤดูกาลนี้ปีนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้ทำในปีหรือฤดูกาล ถัดไปเพื่อให้ชาวนาได้อยู่รอดเพราะการปลูกข้าวคงอยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกยาวนาน
นายณรงค์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย พื้นที่ อ.แม่สาย กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอทั้งหมดทางสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ได้ยื่นต่อทางจังหวัดจนเรื่องไปถึงทุกภาคส่วนทั้งระดับภูมิและระดับชาติไปเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ราคาข้าวยังตกต่ำเหมือนเดิม ในราคากิโลกรัมละ 5.70-5.80 บาท ขณะที่ต้นทุนไร่ละ 4,500-5,000 บาท หากรวมต้นทุนอื่นๆ ก็มากกว่านี้ ทำให้ชาวนาไม่มีรายได้ และไม่มีมีเงินไปชำระหนี้ เนื่องจากราคาที่เกษตรกรจะอยู่รอดได้คือกิโลกรัมละตั้งแต่ 7-8 บาทขึ้นไป หากรวมค่าชดเชยจากเงินประกันรายได้ข้าวของรัฐบาลแล้วก็จะได้กิโลกรัมละ 9-10 บาท
ทั้งนี้ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย รับเรื่องจากชาวนาและให้ตัวแทนของเกษตรกรเข้าไปหารือ ในรายละเอียดเพื่อนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่องระดับนโยบาย และมีมาตรการที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานส่วนกลาง ทำให้กลุ่มชาวนาได้ส่งตัวแทนเข้าไปหารือกับทางจังหวัดเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
ภาพ/ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงราย