ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
เปิดเมืองวันที่สอง แรงงานต่างด้าวยังหลบหนีเข้ามาหางานทำต่อเนื่อง โดยมีชาวไทยทำหน้าที่นำพาเข้าพื้นที่ชั้นใน
เช้ามืด วันที่ 2 พ.ย.64 ตำรวจ สภ.สระแก้ว สกัดจับรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยคันแรก รถเก๋งทะเบียนจังหวัดชลบุรี พร้อมคนขับชาวไทย อายุ 34 ปี ตรวจสอบในรถ มีแรงงานชาวกัมพูชาอัดแน่น จำนวน 12 คน เป็นชาย 10 คน และหญิง 2 คน
ส่วนคันที่สอง ก็ใช้รถเก๋งทะเบียนจังหวัดชลบุรีขนแรงงานเช่นกัน พร้อมคนขับ อายุ 35 ปี แรงงานกัมพูชา ชาย-หญิง 5 คน พร้อมกับมีผู้ติดตาม เป็นเด็กอีก 4 คน บริเวณสามแยกช่องกุ่ม ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้ ลักลอบข้ามมาจากแนวชายแดน มาตามช่องทางธรรมชาติ และมีนายหน้าชาวกัมพูชา ติดต่อว่าจ้างคนไทย ให้ไปรับเพื่อนำแรงงานดังกล่าว ไปส่งตามพื้นที่จังหวัดต่างๆเพื่อไปทำงานก่อสร้างและรับจ้าง ซึ่งจะจ่ายค่าเดินทางให้กับผู้นำพาคนไทย รายละ 1,000 บาทเมื่อไปถึงจุดหมาย
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ผู้ต้องหาที่ 1 แล 2 ซึ่งเป็นชาวไทย ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใด ในสถานที่แออัด เป็นเหตุมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ส่วนชาวกัมพูชา แจ้ง ฐานบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมาย เป็นบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใด ในสถานที่แออัด เป็นเหตุมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองหมากฝ้าย ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธณภาค 2 กำชับให้ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว คุมเข้มจับกุมผู้ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดน รวมทั้งสืบสวนผู้อยู่เบื้องหลัง
เพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายการจัดหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงมอบหมายให้ กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัด สืบสวนเชิงลึกและออกตรวจสอบจับกุม กระทั่งได้ผู้ต้องหาเป็นผู้นำพาชาวไทย และแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก
ภาพ/ข่าว ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระแก้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง