ข่าว

พท.จุดกระแส "ดันแก้ ม.112" และ ม.116 ชี้สภาเป็นพื้นที่แก้ความขัดแย้งได้

พท.จุดกระแส "ดันแก้ ม.112" และ ม.116 ชี้สภาเป็นพื้นที่แก้ความขัดแย้งได้

01 พ.ย. 2564

เกาะติดพรรคเพื่อไทยเดินหน้า "ดันแก้ ม.112" และ ม. 116 ย้ำรัฐจะต้องไม่เป็นต้นตอของความขัดแย้ง การบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติต่อประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองคือการสร้างความขัดแย้งให้กับสังคม

คล้อยหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทยที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา วันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวทีมสื่อสารการเมือง และทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ขึ้น โดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค และทีมรองโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าว 

แต่ประเด็นใหญ่ที่น่าสนใจอย่างมากนั่นคือการเปิดประเด็นของพรรคเพื่อไทยในการผลักดันแก้ไข "ม.112" และ ม.116 ซึ่ง น.ส.ธีรรัตน์ ระบุว่าสืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้อง พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้รวบรวมข้อเรียกร้องจากการชุมนุมเพื่อนำมาสู่ที่ประชุมพรรคและผลักดันข้อเรียกร้องเหล่านั้นเข้าสู่ที่ประชุมสภาต่อไป เพื่อให้เกิดการรับฟังเสียงของประชาชนให้มากที่สุด

 

เราเห็นว่าเสียงของทุกคนมีคุณค่า และมีความสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามและละทิ้งไปได้ นี่จึงเป็นที่มาของแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยเพื่อให้เกิดการทบทวน "ม.112" และ ม.116 ไปจนถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไปจนถึงการติดตาม และเรียกร้องการให้ประกันตัวแก่นักเคลื่อนไหว หรือผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยเราจะใช้ช่องทางสภาผู้แทนราษฎรอย่างถึงที่สุดที่เราต้องไม่นิ่งนอนใจให้เรื่องเหล่านี้เงียบไป น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

คล้อยหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทยที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา วันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวทีมสื่อสารการเมือง และทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ขึ้น โดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค และทีมรองโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าว 

แต่ประเด็นใหญ่ที่น่าสนใจอย่างมากนั่นคือการเปิดประเด็นของพรรคเพื่อไทยในการผลักดันแก้ไข "ม.112" และ ม.116 ซึ่ง น.ส.ธีรรัตน์ ระบุว่าสืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้อง พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้รวบรวมข้อเรียกร้องจากการชุมนุมเพื่อนำมาสู่ที่ประชุมพรรคและผลักดันข้อเรียกร้องเหล่านั้นเข้าสู่ที่ประชุมสภาต่อไป เพื่อให้เกิดการรับฟังเสียงของประชาชนให้มากที่สุด

“เราเห็นว่าเสียงของทุกคนมีคุณค่า และมีความสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามและละทิ้งไปได้ นี่จึงเป็นที่มาของแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยเพื่อให้เกิดการทบทวน "ม.112" และ ม.116 ไปจนถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไปจนถึงการติดตาม และเรียกร้องการให้ประกันตัวแก่นักเคลื่อนไหว หรือผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยเราจะใช้ช่องทางสภาผู้แทนราษฎรอย่างถึงที่สุดที่เราต้องไม่นิ่งนอนใจให้เรื่องเหล่านี้เงียบไป น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

สำหรับทีมสื่อสารการเมือง และทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ขึ้น ที่มีการเปิดตัวขึ้นในวันนี้นั้น นายอนุสรณ์ ชี้ว่านี่คือภาพแรกของคณะกรรมการสื่อสารการเมืองของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีคำกล่าวว่าในสภาวการณ์ที่มืดมิด สิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรกคือการแสวงหาแสงสว่าง ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำมาตลอด คือการพยายามแสวงหาทางออก ท่ามกลางสภาวะวิกฤตของประเทศ เราพยายามปรับปรุง เปลี่ยนโครงสร้าง และรูปแบบการทำงาน พยายามดิสรัปต์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด และเราก็เดินทางมาถึงวันนี้ วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของหลายอย่าง ทั้งการเปิดประเทศ เปิดสภา และเปิดโรงเรียน และเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเปิดตัวคณะทำงานด้านการสื่อสารของพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ในส่วนของทีมรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย 1.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ทำงานด้านเศรษฐกิจและการเมือง 2.น.ส.ณหทัย เล็กบํารุง ทำงานด้านซอฟต์เพาเวอร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ 3.น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ทำงานด้านเศรษฐกิจ กฎหมาย และการเมือง และ 4.น.ส.ชญาภา สินธุไพร ทำงานประสานงานกับสภาผู้แทนราษฎร ด้านการต่างประเทศ และการสื่อสารด้านโซเชียลมีเดีย